เอเอฟพี - สถาบันวิจัยในสหรัฐฯ เตือน เกาหลีเหนือจะสามารถผลิตระเบิดนิวเคลียร์เพิ่มเติมได้ถึง 48 ลูก หรือมากกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบันหลายเท่าตัว หากโครงการนิวเคลียร์ยังพัฒนาต่อไปได้โดยไม่ถูกตรวจสอบ
แม้ความคืบหน้าของโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือจะเป็นเรื่องลับสุดยอด แต่สถาบันเพื่อวิทยาศาสตร์และความมั่นคงนานาชาติก็ใช้ข้อมูลที่มีอยู่อย่างจำกัดพยากรณ์ความก้าวหน้าของเปียงยางในอีกหลายปีข้างหน้า
เกาหลีเหนือทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ครั้งแรกเมื่อปี 2006 และเชื่อกันว่าโรงงานผลิตพลูโตเนียมของเปียงยางจะสามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ระหว่าง 6-18 ลูก แต่ยังไม่ชัดเจนว่า พวกเขามีเทคโนโลยีก้าวหน้าพอจะส่งอาวุธเหล่านั้นออกไปทำลายเป้าหมายได้หรือไม่
หลังการเจรจาลดอาวุธกับชาติมหาอำนาจอย่างจีน ญี่ปุ่น รัสเซีย เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ต้องหยุดชะงักลงไป ภาพถ่ายดาวเทียมก็แสดงให้เห็นว่าเกาหลีเหนือเดินหน้าก่อสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำมวลเบา (light water reactor) ซึ่งอ้างว่าใช้เพื่อจุดประสงค์ด้านพลเรือน แต่ในทางปฏิบัติสามารถปรับไปผลิตยูเรเนียมเกรดอาวุธได้ไม่ยาก
รัฐบาลคิม จอง อึน ยังสร้างโรงเสริมสมรรถนะยูเรเนียม ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีจุดประสงค์เพื่อผลิตเชื้อเพลิงป้อนเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แห่งใหม่ อย่างไรก็ดี นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเกาหลีเหนืออาจจะใช้โรงงานแห่งนี้ผลิตยูเรเนียมสมรรถนะสูงเพื่อเป็นทางเลือกที่ 2 ในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์นอกเหนือจากพลูโตเนียม
ผลการศึกษาโดยสถาบันเพื่อวิทยาศาสตร์และความมั่นคงนานาชาติ พบว่า หากเตาปฏิกรณ์แบบน้ำมวลเบาไม่ได้ถูกใช้ผลิตพลูโตเนียมเกรดอาวุธ คลังอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือก็จะเพิ่มขึ้นไม่มากนัก อยู่ระหว่าง 14-25 ลูกภายในสิ้นปี 2016 แต่หากเปียงยางจะใช้เตาปฏิกรณ์แห่งนี้ผลิตทั้งพลูโตเนียมและยูเรเนียมเกรดอาวุธไปพร้อมกัน ก็จะมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองได้ถึง 28-39 ลูก ภายในระยะเวลาเดียวกัน
ทั้งนี้ หากเกาหลีเหนือซุกซ่อนเครื่องเหวี่ยงเพิ่มความเข้มข้นวัสดุนิวเคลียร์ (centrifuge) แห่งที่ 2 ตามที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนคาดไว้ คลังอาวุธนิวเคลียร์ของโสมแดงก็เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 37-48 ลูกเลยทีเดียว
“เช่นเดียวกับกรณีอื่นๆ การเจรจาน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่จะสามารถหลีกเลี่ยงภัยคุกคามความมั่นคงจากเกาหลีเหนือได้ ซึ่งก็จะต้องใช้ความพยายามอย่างแข็งขันด้วย” รายงานผลการศึกษาซึ่งเขียนโดย เดวิด อัลไบรท์ และคริสตินา วอลรอนด์ ระบุ
ผู้วิจัยยังเสนอว่า สหรัฐฯ ยังพอมีทางอื่นที่จะชะลอโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ เช่น โน้มน้าวให้จีนสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าสินค้าสู่เกาหลีเหนือ และบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างจริงจัง เป็นต้น