เอเอฟพี - ชาวอินเดียจากรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือตัดสินใจหลบหนีออกจากเมืองตอนใต้ เมื่อวานนี้ (16) หลังมีข่าวลือแพร่สะพัดว่าพวกเขาจะถูกชาวมุสลิมโจมตีหลังเดือนรอมฎอน เพื่อแก้แค้นเหตุรุนแรงระหว่างเชื้อชาติในรัฐอัสสัม เจ้าหน้าที่เผย
เจ้าหน้าที่การรถไฟต้องเพิ่มขบวนรถพิเศษจากเมืองบังกาลอร์ รัฐกรณาฏกะ มายังรัฐอัสสัม เพื่อรองรับผู้โดยสารที่แห่จองตั๋วถึง 6,000 ใบ หลังเย็นวันพุธ (15) เป็นต้นมา ขณะที่ประชาชนที่เดินทางกลับถึงเมืองกูวาฮาตีในรัฐอัสสัม เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่า พวกเขาตัดสินใจในนาทีสุดท้ายที่จะหนีออกจากเมืองไฮเดอราบัด รัฐอานธรประเทศ และรัฐเกรละ ทางตอนใต้ของอินเดีย
วินเซนต์ เอส. ดีซูซา รองอธิบดีตำรวจเมืองบังกาลอร์ ระบุว่า “เรากำลังสืบหาต้นตอของข่าวลือ และผู้ที่อยู่เบื้องหลัง”
เหตุปะทะอย่างรุนแรงนานกว่า 3 สัปดาห์ระหว่างชนเผ่าโบโดกับชาวมุสลิมในรัฐอัสสัม ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 80 ราย และชาวบ้านต้องอพยพหนีความขัดแย้งอีกกว่า 400,000 คน
ด้านนายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์ แห่งอินเดีย เรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ
“เราต้องรักษาความสงบเรียบร้อยไว้ให้ได้” นายกรัฐมนตรีเผย พร้อมเตือนให้ชาวอินเดียใช้สติพิจารณาให้ถี่ถ้วนเมื่อได้ยินข่าวลือต่างๆ
“เราต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตามิให้ประชาชนจากรัฐอื่นๆ ถูกข่มขู่โดยพวกที่ชอบปล่อยข่าวลือ รวมถึง SMS” ซิงห์กล่าว พร้อมระบุว่าตนได้ติดต่อกับบรรดารัฐมนตรีประจำรัฐที่ได้รับผลกระทบแล้ว
ตำรวจตอนใต้ของอินเดียเปิดเผยว่า เกิดข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่าประชาชนที่มาจากรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีหน้าตาคล้ายชาวเอเชียตะวันออกหรือชาวทิเบตมากกว่าคนอินเดีย จะถูกโจมตีหลังสิ้นสุดเดือนรอมฎอนในวันที่ 20 สิงหาคม นอกจากนี้ยังมีรายงานการทำร้ายพลเมืองที่หน้าตาคล้ายคนจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเมืองปูเนและไมซอร์ด้วย