xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มติดอาวุธบุกโจมตีฐานทัพอากาศสำคัญปากีฯ ก่อนถูกปลิดชีพ 8 ราย ทหารรัฐบาลดับ 1 ศพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์พร้อมอาวุธครบมือ ก่อเหตุบุกเข้าโจมตีหนึ่งในฐานทัพอากาศที่ใหญ่ที่สุดของปากีสถานในวันนี้ (16) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน ทั้งนี้เป็นการเปิดเผยของกองทัพอากาศปากีสถาน ถือเป็นปฏิบัติการครั้งสำคัญที่ท้าทายกองทัพของปากีสถานซึ่งเป็นชาติที่ได้ชื่อว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง

รายงานข่าวซึ่งอ้างนาวาอากาศเอกทาริก มะห์มูด โฆษกกองทัพอากาศปากีสถานระบุว่า มีเครื่องบินรบหนึ่งลำได้รับความเสียหายจากเหตุโจมตีที่เกิดขึ้น ณ ฐานทัพอากาศ “มินฮาส” ในเมืองคัมราแคว้นปัญจาบทางตอนกลางของประเทศ อย่างไรก็ดี โฆษกรายนี้ยืนยันว่า ฐานทัพแห่งนี้มิได้เป็นสถานที่เก็บอาวุธนิวเคลียร์แต่อย่างใด

เหตุจู่โจมที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการยิงปะทะกันนานนับชั่วโมง โดยหน่วยคอมมานโดและตำรวจถูกส่งเข้าไปเสริมกำลังในพื้นที่หลังการโจมตีเริ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ผลของการปะทะทำให้สมาชิกกลุ่มติดอาวุธ 8 ราย และทหารของรัฐบาลปากีสถาน 1 นายเสียชีวิต ขณะที่มูอัมหมัด อาซัม ผู้บัญชาการฐานทัพอากาศมินฮาสได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงที่บริเวณไหล่ และอาการยังทรงตัว

ข้อมูลระบุว่า บรรดาผู้ที่ลงมือก่อเหตุโจมตีในครั้งนี้ ได้เคลื่อนกำลังผ่านมาทางหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียงโดยอาศัยความมืดอำพรางตัว ก่อนจะพากันปีนกำแพงรั้วลวดหนามสูงกว่า 2.7 เมตร บุกเข้าไปภายในฐานทัพ โดยสมาชิกกลุ่มติดอาวุธบางรายสวมใส่เครื่องแบบทหาร

เหตุโจมตีที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงการยืนยันอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ ของทางการปากีสถานก่อนหน้านี้ที่อ้างว่า การใช้ปฏิบัติการทางทหารกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธภายในประเทศในช่วงที่ผ่านมา ได้สร้างความสูญเสียและทำให้กลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงที่ต้องการโค่นล้มรัฐปากีสถานเหล่านี้อ่อนแอลงอย่างมาก

ทั้งนี้ ฐานทัพอากาศมินฮาส อยู่ห่างจากกรุงอิสลามาบัดเมืองหลวงของประเทศไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 75 กิโลเมตร โดยฐานทัพอากาศแห่งนี้อยู่ใกล้กับหนึ่งในศูนย์วิจัยและพัฒนาที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง ของกองทัพอากาศ และมีรายงานว่า รัฐบาลปากีสถานได้ใช้ฐานทัพแห่งนี้ในการผลิตเครื่องบินขับไล่แบบ “เจเอฟ-17” ที่พัฒนาร่วมกับจีนอีกด้วย โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่าเคยเกิดเหตุโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายหลายครั้งใกล้กับฐานทัพ และศูนย์วิจัยฯดังกล่าวในปี 2007 และปี 2009




กำลังโหลดความคิดเห็น