หนุ่มบริสุทธิ์ โร่พบนักข่าวขอความเป็นธรรม แจงชื่อโผล่คดีวิสามัญแก็งยาเสพติด หน้าฐานทัพอากาศ ยืนยันความบริสุทธิ์หวั่นถูก ตร.วิฯ ชี้บัตร ปชช.หาย คนร้ายเก็บไปสวมรอย ก่อน ตร.นำตัวพบกลุ่มผู้ต้องหายันไม่รู้จัก ไม่มีส่วนพันพัน รอดพ้นมลทิน ปลอดความมัวหมอง!
วันนี้ (10 ส.ค.) เวลา 14.30 น. ที่ห้องสื่อมวลชน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายประสม สุทธิชนโสภากุล อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 ซอยทวีวัฒนา 19/1 ถ.ทวีวัฒนา แขวงและเขตทวีวัฒนา กทม. ผู้เสียหายที่มีชื่อไปพัวพันในคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงวิสามัญแก็งยาเสพติด 1 ราย และจับกุมเพิ่มได้อีก 2 ราย ที่บริเวณด้านหน้าฐานทัพอากาศ ย่านดอนเมือง โดยมีชื่อผู้เสียหายปรากฎในข่าวเป็น 1 ในผู้ต้องหา จึงเดินทางมาขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน ช่วยแก้ไขข่าวที่นำเสนอไป เพราะสร้างความเสียหายแก่ตนเองและครอบครัว
นายประสม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา เพื่อนที่รู้จักกันได้โทรศัพท์มาบอกตนว่ามีชื่อปรากฎตามสื่อแขนงต่างๆในคดีวิสามัญแก๊งยาเสพติด ซึ่งเพื่อนนึกว่าตนกำลังหลบหนีอยู่ จึงรีบเข้าไปติดต่อที่ สน.ตลิ่งชัน ทันทีเพราะกลัวจะถูกวิสามัญ ต่อมาทางโรงพักได้แนะนำมาว่าให้ไปดำเนินการที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พร้อมกับเดินทางไปติดต่อ โดยมี พ.ต.ท.พงศกร อนันต์ยศสรกิจ พนักงานสอบสวน (สบ 3) กลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน บก.ปส.3 เป็นผู้ประสานงานพร้อมกับชี้แจงเรื่องราวต่างๆ อีกทั้ง ยังได้ไปเจอกับกลุ่มคนร้ายในคดียาเสพติดดังกล่าวด้วย แต่ทางกลุ่มคนร้ายบอกว่าไม่รู้จักกับตนจึงทำให้รอดจากการถูกกล่าวหา ทั้งนี้ พ.ต.ท.พงศกร ได้แนะนำให้มาที่ บช.น. หลังจากเป็นผู้เผยแพร่ข้อมูลและภาพของตนตามสื่อต่างๆ
นายประสม กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เก็บบัตรประชาชนของตนได้ ซึ่งอาจเป็นบัตรใบเก่าที่หายไปก่อนหน้านี้และคาดว่าคนร้ายคงจะเก็บได้แล้วนำไปใช้ก่อเหตุ โดยทางตำรวจนำบัตรใบเก่าของตนไปค้นข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์ออกมาเพื่อขยายผล แต่สื่อมวลชนกับนำออกมาเผยแพร่จึงอาจทำให้คนในสังคมเข้าใจตนผิด นอกจากนี้ บัตรใบจริงของตนได้ทำมาใหม่ เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2554 ตามที่อยู่ปัจจุบัน
“วันนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อมายืนยันความบริสุทธิ์ใจ เพราะที่ผ่านมาชื่อและรูปภาพของผมยังปรากฎในข่าวอยู่ เพียงอยากให้สื่อมวลชนช่วยแก้ไขข่าวให้หน่อย เพราะอาจทำให้คนในสังคมเข้าใจผิดคิดว่าผมเป็นแก๊งค้ายาเสพติดจริง และไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายอะไรเลย” นายประสม กล่าวทิ้งท้าย