น้ำมันขึ้น แต่หุ้นสหรัฐฯ-ทองคำปิดลบกังวลเศรษฐกิจญี่ปุ่น

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันลอนดอนวานนี้ (13) ปิดบวกจากความกังวลทางอุปทานและความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ขณะที่วอลล์สตรีทขยับลง ส่วนทองคำดิ่งลงอย่างหนัก ตามข้อมูลทางเศรษฐกิจที่น่าวิตกของญี่ปุ่น

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 14 เซ็นต์ ปิดที่ 92.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันเพิ่มขึ้น 62 เซ็นต์ ปิดที่ 113.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม

คาร์เทน ฟริตส์ช นักวิเคราะห์จากคอมเมิร์ซแบงก์ระบุว่า ราคาน้ำมันตลาดลอนดอนขยับขึ้น จากความกังวลต่ออุปทานตึงตัวจากปัญหาการผลิตในทะเลเหนือ เช่นเดียวกับความตึงเครียดในตะวันออกกลางต่อกรณีอิสราเอลอาจลงมือโจมตีอิหร่านโดยฝ่ายเดียว

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (13) ปิดในแดนลบท่ามกลางการซื้อขายที่เซื่องซึม ขณะที่นักลงทุนหวาดหวั่นต่อข้อมูลทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของญี่ปุ่น

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ลดลง 37.90 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,170.05 จุด แนสแดคลดลง 1.66 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,022.52 จุด เอสแอนด์พีลดลง 1.67 จุด (0.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,404.20 จุด

ก่อนหน้านี้รัฐบาลญี่ปุ่นเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนเติบโตขึ้นจากไตรมาสแรกของปีเพียงร้อยละ 0.3 ผิดกับที่ตลาดคาดหวังไว้ว่าจะเติบโตที่ราวร้อยละ 0.7 “ณ วันนี้ ญี่ปุ่นได้รับความสนใจน้อย แต่ยังคงเป็นชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก” ดิค กรีน นักวิเคราะห์จากบรีฟดอคคอมระบุ

ปัจจัยดังกล่าว ประกอบกับจีนและชาติอื่นๆ ในเอเชียส่งสัญญาณถึงความอ่อนแอทางเศรษฐกิจก็ฉุดให้ราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ วานนี้ (13) ดิ่งลงถึง 10.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,612.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกถูกมองว่าเป็นตัวสนับสนุนเศรษฐกิจโลกในยามที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปเริ่มชะลอตัวเช่นนี้