เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ระบบจ่ายไฟฟ้าในอินเดียสามารถให้บริการได้ตามปกติแล้ว วันนี้(1) หลังเกิดวิกฤตไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่ทำให้ประชาชนกว่า 600 ล้านคนต้องตกอยู่ในความมืดมิดนานถึง 2 วัน
“เราได้ซ่อมแซมแผงจ่ายไฟฟ้าในภาคเหนือ, ตะวันออก และตะวันออกเฉียงเหนือเรียบร้อยแล้ว” ซูนี ประธานบริษัทผลิตไฟฟ้า เพาเวอร์ ซิสเต็ม ออพพะเรชัน คอร์ป ให้สัมภาษณ์
โครงข่ายไฟฟ้าในภาคเหนือของอินเดียเกิดขัดข้องเมื่อวันจันทร์(30)ที่ผ่านมา หลังจากนั้นแผงจ่ายไฟทั้งหมด 3 จุดก็เกิดเสียลงพร้อมๆกันในช่วงเที่ยงของวันอังคาร(31) สร้างความโกลาหลไปทั่วทั้งภูมิภาค และทำให้การสัญจรกลายเป็นอัมพาตไปทันที
คนงานเหมืองหลายร้อยคนในรัฐเบงกอลตะวันตกและชาร์คันด์ต้องติดอยู่ในเหมืองใต้ดินนานหลายชั่วโมง ขณะที่รถไฟใต้ดินในกรุงนิวเดลีต้องปิดให้บริการชั่วคราว ส่วนระบบรางอื่นๆก็ถูกระงับไว้ทั่วประเทศ
วีรัปปา มอยลี รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานอินเดีย ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่จากการปรับคณะรัฐมนตรี ยอมรับว่า การฟื้นคืนความเชื่อมั่นของประชาชนถือเป็นภารกิจหนัก
“สถานการณ์ขณะนี้ยากลำบากและท้าทายอย่างมาก และเราต้องเร่งหาทางแก้ไขให้ได้” มอยลี ให้สัมภาษณ์สื่อโทรทัศน์อินเดีย
แหล่งข่าวระดับสูงในกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า ต้นตอเหตุไฟฟ้าดับต่อเนื่อง 2 วันเกิดจากบางรัฐดึงกระแสไฟฟ้าเข้าไปใช้เกินกว่าอัตราที่กำหนด
“ผมจะไม่ขอติเตียนใครทั้งสิ้น รัฐบาลกลางและฝ่ายบริหารของรัฐต่างๆต้องร่วมกันแก้ไขปัญหานี้” มอยลี ระบุ
เหตุไฟฟ้าดับสร้างความโกรธเคืองแก่ประชาชนในเมืองที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างยิ่ง เมื่อการจราจรที่เป็นอัมพาตส่งผลให้พวกเขาต้องใช้วิธีเดินเท้าไปตามถนน ท่ามกลางอุณหภูมิอันร้อนระอุในฤดูมรสุม
สมาพันธ์อุตสาหกรรมแห่งอินเดีย (ซีไอไอ) ประเมินมูลค่าความเสียหายต่อภาคธุรกิจไว้นับหมื่นล้านรูปี พร้อมระบุว่า วิกฤตไฟฟ้าดับกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการลงทุนของอินเดียอย่างมาก
จันทราชิต บาเนอร์จี ผู้อำนวยการใหญ่ซีไอไอ เตือนว่า อินเดียเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดประเทศหนึ่ง รัฐบาลจึงจำเป็นต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้มีคุณภาพสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายในการพัฒนาประเทศ