รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-เหตุขัดข้องในระบบจ่ายไฟฟ้าของอินเดียเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ส่งผลให้ประชากร 670 ล้านคนหรือครึ่งหนึ่งของประชากรอินเดียทั้งประเทศ ทั้งในกรุงนิวเดลีและพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนเหนือไม่มีไฟฟ้าใช้ ถือเป็นเหตุไฟฟ้าดับครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบมากกว่า 1 ทศวรรษ และเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความล้าหลังด้านระบบสาธารณูปโภคของอินเดียที่ได้ชื่อว่าเป็นชาติที่มีเศรษฐกิจใหญ่ลำดับที่ 3 ของเอเชีย
รายงานข่าววันนี้ (31) ระบุว่า กระแสไฟฟ้าในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของประเทศ รวมถึงในอีก 7 รัฐ เช่น อุตตรประเทศ ราชาสถาน ปันจาบ จัมมู-แคชเมียร์ รวมถึงที่แคว้นอัสสัมที่อยู่ใกล้พรมแดนจีน ยังใช้งานไม่ได้ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เป็นเหตุระบบให้บริการรถไฟใต้ดินต้องปิดทำการ ทำให้เกิดความโกลาหลตามสถานีต่างๆที่มีผู้โดยสารตกค้างจำนวนมาก รวมถึงความวุ่นวายบนท้องถนนในหลายเมืองโดยเฉพาะเมืองใหญ่อย่างกรุงนิวเดลี และนครกัลกัตตา สืบเนื่องจากสัญญาณไฟจราจรไม่ทำงาน ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนถึงความล่าช้าของรัฐบาลในการแก้ปัญหา
ทั้งนี้ ปัญหาการขาดแคลนพลังงาน และความล้าหลังด้านสาธารณปูโภค รวมถึง ถนนและเส้นทางรถไฟกำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ของรัฐบาลอินเดียที่ตั้งเป้าจะนำ ประเทศของตน ก้าวไปสู่การเป็นชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจชั้นนำของโลก