เอเอฟพี - เจ้าพ่อสื่อชาวออสเตรเลีย รูเพิร์ต เมอร์ด็อก ประกาศสละตำแหน่งผู้อำนวยการเครือสื่อในอังกฤษ ซึ่งตีพิมพ์หนังสือพิมพ์เดอะซัน, เดอะไทมส์ และเดอะซันเดย์ไทมส์ โฆษกบริษัท นิวส์ อินเตอร์เนชันแนลแถลงวานนี้ (21)
“สัปดาห์ที่แล้วคุณเมอร์ด็อกได้ลาออกจากบอร์ดบริหารสื่อย่อยๆ ในเครือ ทั้งในอังกฤษ และสหรัฐฯ” โฆษกหญิงนิวส์ อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งเป็นบริษัทลูกของนิวส์คอร์ป เผย
3 บริษัทสื่อในอังกฤษที่เมอร์ด็อกประกาศถอนตัว ประกอบด้วย นิวส์ คอร์ป อินเวสต์เมนต์ส, นิวส์ อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป ลิมิเต็ด และไทมส์ นิวส์เปเปอร์ โฮลดิ้งส์ นอกจากนี้เขายังลาออกจากบอร์ดบริหารของบริษัทลูกอีกหลายแห่ง ทั้งในสหรัฐฯ, ออสเตรเลีย และอินเดีย
นิวส์ อินเตอร์เนชันแนลแถลงว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าว “เป็นเพียงการเช็ดถูทำความสะอาดอาณาจักรสื่อ ก่อนที่จะแยกกิจการออกเป็น 2 บริษัท”
เดือนมิถุนายนที่ผ่านมานิวส์คอร์ปประกาศจะแยกกิจการฝ่ายบันเทิงออกจากสื่อสิ่งพิมพ์ แต่จะยังทุ่มเทให้กับงานทั้ง 2 ด้านอย่างเต็มที่ โดยเมอร์ด็อกจะดำรงตำแหน่งประธานทั้ง 2 บริษัท ซึ่งมีฝ่ายบันเทิงที่นำโดยฟ็อกซ์ สตูดิโอ และกิจการโทรทัศน์ และฝ่ายสิ่งพิมพ์ที่รวมถึงวอลล์สตรีท เจอร์นัล และไทมส์ ออฟ ลอนดอน
อย่างไรก็ดี ประกาศดังกล่าวทำให้สื่อในอังกฤษตั้งข้อสันนิษฐานว่านิวส์คอร์ปอาจกำลังเตรียมโละทิ้งหนังสือพิมพ์ในเมืองผู้ดี ซึ่งตกเป็นข่าวฉาวเรื่องพฤติกรรมดักฟังโทรศัพท์ และทำให้เมอร์ด็อก วัย 81 ปี ต้องเผชิญแรงกดดันอย่างหนักทั้งจากผู้ถือหุ้น และบรรดานักการเมือง
สื่อแทบลอยด์ชื่อดังนิวส์ออฟเดอะเวิลด์ต้องปิดตัวลงเมื่อ 1 ปีก่อน หลังถูกสังคมอังกฤษรุมประณามเรื่องที่ผู้สื่อข่าวเข้าไปดักฟังและแก้ไขข้อความเสียงของเด็กหญิงที่ถูกฆาตกรรม และยังดักฟังโทรศัพท์ของบุคคลผู้มีชื่อเสียงอีกจำนวนมาก
นักวิเคราะห์มองว่าเมอร์ด็อกพยายามดึงนิวส์คอร์ปให้พ้นจากข่าวเสื่อมเสีย ซึ่งทำให้ผู้บริหารระดับสูงต้องหลุดจากตำแหน่งไปแล้วหลายราย