เอเอฟพี/เอเจนซี - มือระเบิดฆ่าตัวตายคนเดียวโดดๆ ก่อเหตุโจมตีบนรถโดยสารคันหนึ่งที่สนามบินเมืองเบอร์กัส ประเทศบัลแกเรีย ซึ่งกำลังมีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลจำนวนมากอยู่ในรถ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 6 คน และบาดเจ็บสาหัสอีก 3 คน ทางการบัลแกเรียนำวิดิโอบันทึกเหตุการณ์ออกเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี(19) ขณะที่อิสราเอลคำรามลั่นว่า ตัวการก่อเหตุคราวนี้คือกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน โดยที่มีอิหร่านเป็นผู้อุปถัมภ์ แต่ทางด้านเตหะรานปฏิเสธทันควัน
สเวตัน สเวตานอฟ รัฐมนตรีมหาดไทยบัลแกเรียแถลงว่า ภาพวิดิโอจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดซึ่งบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันพุธ(18) คราวนี้ แสดงให้เห็นว่ามือระเบิดฆ่าตัวตายเป็นชาวผิวขาวผู้หนึ่ง ที่สวมกางเกงขาสั้นและสะพายเป้ เหมือนกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ บุคคลผู้นี้มีผมยาวสีทอง ซึ่งอาจจะเป็นวิกผมปลอมก็ได้ นอกจากนั้นเขายังสวมแว่นกันแดด และเดินไปเดินมาทั่วสนามบิน
รัฐมนตรีมหาดไทยบัลแกเรียกล่าวด้วยว่า คนร้ายผู้นี้ดูเหมือนคนหนุ่มอายุสัก 26 ปี เขาใช้เอกสารการเดินปลอมที่เป็นใบขับขี่ปลอมของมลรัฐมิชิแกนในสหรัฐฯ ทางการได้ลายนิ้วมือของเขาแล้ว อีกทั้งกำลังตรวจดีเอ็นเอโดยได้รับความช่วยเหลือจากสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ)
ความรุนแรงของระเบิดได้สร้างความเสียหายไปทั่วทั้งรถโดยสารคันดังกล่าวที่จอดอยู่ในลานจอดรถของสนามบิน และมีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลราวๆ 50 คน กำลังลำเลียงกระเป๋าและพาตัวเองขึ้นไปนั่งบนรถ เพื่อเดินทางต่อไปยังรีสอร์ตและกาสิโนริมทะเลดำยอดนิยมซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสนามบิน นักท่องเที่ยวเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของผู้โดยสารทั้งสิ้น 154 คนที่เพิ่งเดินทางถึงสนามบินเมืองเบอร์กัส จากกรุงเทลอาวีฟ ด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำ
เหตุร้ายคราวนี้ทำให้นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลจำนวน 5 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะที่คนขับรถโดยสารที่เป็นชาวบัลแกเรียไปเสียชีวิตในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่หลายรายระบุ โดยที่มีการลดจำนวนผู้ถูกสังหารลงมาจากที่ระบุในตอนแรกว่ามี 6 คน บวกกับมือระเบิดอีกคนหนึ่ง รวมเป็น 7 คน นอกจากนั้นยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ 30 คน ในจำนวนนี้ 3 คนอาการสาหัส
ผู้เห็นเหตุการณ์หลายรายเล่าว่า หลังการระเบิดมีผู้โดยสารจำนวนหนึ่งซึ่งอยู่ในอาการตื่นตระหนก พากันกระโจนออกมาทางหน้าต่างของรถโดยสาร ขณะที่ศพของผู้เสียชีวิตซึ่งแหลกเละ ตกกระจายเกลื่อนอยู่ตามพื้นดินโดยที่เสื้อผ้าอยู่ในสภาพฉีกขาด ท่ามกลางเสียงไซเรนรถพยาบาลดังโหยหวน และคันดำโขมงพุ่งขึ้นเหนือท้องฟ้าบริเวณสนามบิน
ทางด้านรัฐมนตรีกลาโหม เอฮูด บารัค ของอิสราเอล กล่าวทางวิทยุของทางการรัฐยิวว่า “เรากำลังเผชิญกับกระแสของการก่อการร้ายในทั่วโลก … การโจมตีในเมืองเบอร์กัสคราวนี้นำโดยพวกสมาชิกของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และมีอิหร่านเป็นผู้อุปถัมภ์”
“กลุ่มอัลกออิดะห์และเครือข่ายนักรบญิฮัดอิสลาม ก็ปฏิบัติการไปทั่วโลกเช่นกัน” เขากล่าวต่อ พร้อมกับยกตัวอย่างยาวเหยียดของเหตุโจมตีหรือการพยายามโจมตีชาวอิสราเอลตามที่ต่างๆ ทั่วโลกในระยะใกล้ๆ นี้ เป็นต้นว่า ในประเทศไทย, อินเดีย, จอร์เจีย, เคนยา, และไซปรัส
อย่างไรก็ตาม อิสราเอลแสดงท่าทีว่าจะยังไม่รีบร้อนในการเปิดฉากความขัดแย้งหรือการสู้รบใดๆ กับอิหร่าน หรือกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ถึงนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศให้คำมั่นว่าจะต้องมี “การตอบโต้อย่างทรงพลัง” แน่นอน
บารัคกล่าวว่า อิสราเอลจะ “ทำทุกๆ อย่างที่สามารถทำได้เพื่อค้นหาพวกที่ต้องรับผิดชอบ และพวกที่นำคนร้ายเหล่านี้เข้ามาปฏิบัติการ และจัดการลงโทษพวกมัน” อันเป็นภาษาที่ดูเหมือนจะบ่งบอกถึงการปฏิบัติการแบบลับๆ เพื่อเล่นงานบุคคลเป็นรายคนไปมากกว่า
สำหรับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ได้ออกมาแถลงประณามการก่อเหตุร้ายคราวนี้ว่า เป็น “การโจมตีอันโหดร้ายป่าเถื่อนของผู้ก่อการร้าย” พร้อมกับยืนยันว่า “สหรัฐฯจะยืนอยู่เคียงข้างเหล่าพันธมิตรของเรา และให้ความช่วยเหลือทุกๆ อย่างที่จำเป็นเพื่อการระบุอัตลักษณ์ และนำความยุติธรรมมาลงโทษพวกที่ก่อเหตุ”
ขณะที่สถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่านกล่าวว่า ข้ออกล่าวหา “ที่น่าหัวเราะเยาะ” ของอิสราเอลนี้ “มีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างบรรยากาศต่อต้านอิหร่าน” ส่วน รามิน เมห์มานปารัสต์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าาน แถลงทางทีวีว่า อิหร่านเป็นเหยื่อนรายใหญ่ที่สุดของลัทธิก่อการร้าย อิหร่านเชื่อว่าการก่อการร้ายเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้บริสุทธิ์ จึงเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม และจึงขอประณามการกระทำเช่นนี้อย่างแข็งขัน