เอเอฟพี - กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน ทรงเตือนว่าซีเรียกำลังเข้าใกล้สงครามกลางเมืองเต็มรูปเข้าไปทุกขณะ และในสถานการณ์ขั้นเลวร้ายที่สุด อาวุธเคมีที่นำออกมาใช้อาจตกไปถึงมือเครือข่ายอัลกออิดะห์
กษัตริย์จอร์แดนพระราชทานสัมภาษณ์แก่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า เหตุระเบิดที่คร่าชีวิตผู้นำระดับสูงของรัฐบาลซีเรีย ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แต่ยังมิใช่จุดจบของระบอบเผด็จการที่หมายจะยื้ออำนาจไว้ให้ถึงที่สุด
“หรือจะกล่าวอีกอย่างก็คือ สถานการณ์เริ่มวุ่นวายจนถึงจุดที่ข้าพเจ้าคิดว่า สิ่งเลวร้ายที่สุดสำหรับพวกเราทุกคนที่อยู่ในภูมิภาคนี้ก็คือ สงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบ ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วย่อมไม่มีทางแก้ไข” กษัตริย์จอร์แดนตรัส
เหตุระเบิดฆ่าตัวตายในกรุงดามัสกัสเมื่อวานนี้(18) สังหารเจ้าหน้าที่คนสำคัญของซีเรียไปหลายคน รวมถึงรัฐมนตรีกลาโหม ดาอูด รัจฮา, อัสเซฟ เชากัต พี่เขยของประธานาธิบดี อัสซาด และพลเอกฮัสซัน เติร์กมานี หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการในภาวะวิกฤต ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกวาดล้างผู้ประท้วง
“สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ระบอบซีเรียต้องบอบช้ำ แต่เราก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า รัฐบาลซีเรียจะล่มสลายลงในเวลาอันใกล้” กษัตริย์อับดุลเลาะห์ตรัส พร้อมทรงเตือนว่า เวลาสำหรับทางออกเหลือน้อยลงทุกที
“เราควรตั้งกรอบเวลาสำหรับแก้ไขวิกฤตด้วยวิธีทางการเมือง ซึ่งกรอบเวลานี้หากยังไม่หมดไป ข้าพเจ้าก็คิดว่า คงจะใกล้สิ้นสุดเต็มทีแล้ว”
“หากแนวทางนี้ล้มเหลว หากความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองถูกทำลายจนไม่อาจกลับคืนมาได้ เราจะต้องใช้เวลาฟื้นฟูซีเรียอีกนานหลายปี และข้าพเจ้าคิดว่า เราเริ่มเห็นสัญญาณเช่นนั้นในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา”
เมื่อผู้สื่อข่าวทูลถามเกี่ยวกับรายงานที่ว่าทหารซีเรียเริ่มระดมอาวุธเคมีออกจากคลังแสง กษัตริย์จอร์แดนทรงแสดงความกังวลว่า สถานการณ์อาจเลวร้ายจนถึงขั้นสงครามกลางเมือง และอาวุธเคมีอาจตกไปถึงมือผู้ก่อการร้าย
“เราทราบข้อมูลมาว่า มีกลุ่มอัลกออิดะห์ซ่อนตัวอยู่ตามภูมิภาคต่างๆของซีเรีย และอยู่มาได้ระยะหนึ่งแล้ว... ในขณะที่เรากำลังมองหาทางออกสำหรับวิกฤตซีเรีย สิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือ การที่อาวุธเคมีเหล่านั้นจะตกไปถึงมือของผู้ไม่หวังดี” พระองค์ทรงเตือน
ทั้งนี้ กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 ทรงคัดค้านการส่งทหารเข้าแทรกแซงซีเรีย แต่หาก อัสซาด “เดินเกมผิดครั้งใหญ่” ด้วยการใช้อาวุธเคมีปราบปรามพลเมือง นานาชาติก็อาจต้องตอบโต้ด้วยวิธีทางทหาร และหากอาวุธเคมีที่ไม่ทราบว่ามีจำนวนมากน้อยเท่าใดตกไปอยู่ในมือของกบฎ แม้แต่รัสเซียที่คัดค้านบทลงโทษขององค์การสหประชาชาติ ก็อาจยอมสนับสนุนแผนแทรกแซงซีเรีย
“หากอาวุธเคมีตกไปอยู่กับฝ่ายกบฎ ข้าพเจ้าเชื่อว่าท้ายที่สุดเราจะต้องเดือดร้อนเช่นกัน พวกเขา(รัสเซีย)น่าจะยินดีสนับสนุนการแทรกแซงจากนานาชาติมากกว่า” กษัตริย์จอร์แดนตรัส
“แต่ขอให้แน่ใจว่า หากจะมีการส่งอาวุธเข้าไป อาวุธเหล่านั้นต้องอยู่ในมือบุคคลที่เหมาะสมเท่านั้น ไม่ใช่กลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ดังที่ข้าพเจ้าคาดการณ์”