รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-สื่อต่างประเทศรายงาน “พีทีที”หรือปตท.ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของไทยจ่อชนะศึกเทคโอเวอร์กิจการมูลค่า 1,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 60,000ล้านบาท) ของบริษัทพลังงาน “โคฟ เอเนอร์จี”ซึ่งมีฐานที่กรุงลอนดอน หลังจากรายงานข่าวล่าสุดยืนยันว่า คู่แข่งสำคัญของปตท.อย่างรอยัล ดัตช์ เชลล์ ประกาศถอนตัวเมื่อวันจันทร์ (16) ที่ผ่านมา ทั้งที่ขับเคี่ยวกับปตท.อย่างดุเดือดในการซื้อกิจการของบริษัทดังกล่าวมานานกว่า 5 เดือน
รายงานข่าวของสื่อต่างประเทศหลายสำนักระบุว่า การประกาศถอนตัวแบบไม่คาดฝันของรอยัล ดัตช์ เชลล์ส่งผลให้ทางบริษัท ปตท.สำรวจและผลิต ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้สำรวจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่อันดับ 3 ของทวีปเอเชีย จะได้สิทธิ์ในการเข้าสำรวจและขุดเจาะแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่เคยอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทโคฟ แถบชายฝั่งด้านตะวันออกของแอฟริกา ซึ่งรวมถึง แหล่งก๊าซธรรมชาติ “โรวูมา” ที่อยู่บริเวณรอยต่อพรมแดนระหว่างประเทศแทนซาเนียและโมซัมบิก โดยสื่อต่างประเทศระบุว่า การเข้าถึงแหล่งก๊าซดังกล่าวจะช่วยให้ปตท.กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) รายใหญ่ของเอเชียในทันที
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ด้านพลังงานระบุว่า การถอนตัวอย่างกะทันหันของรอยัล ดัตช์ เชลล์บริษัทพลังงานซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ และได้ชื่อว่าเป็นบริษัทเอกชนที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกเมื่อปีที่แล้วนั้นอาจเป็นเพราะ ทางรอยัล ดัตช์ เชลล์พิจารณาแล้วเห็นว่า การทุ่มเงินซื้อกิจการโคฟ เอเนอร์จีของทางปตท.ที่เสนอเงินสูงถึงหุ้นละ 240 เพนซ์นั้นเป็นราคาที่สูงเกินความเป็นจริง และทางรอยัล ดัตช์ เชลล์ เองซึ่งเสนอราคาสูงสุดที่ 220 เพนซ์ต่อหุ้น ก็ยังไม่แน่ใจว่า ผลประโยชน์จากแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ทางบริษัทโคฟถือครองอยู่นั้น จะคุ้มค่าต่อการลงทุนจริงหรือไม่ จึงตัดสินใจถอนตัวและปล่อยให้ปตท.ของไทยเป็นผู้รับความเสี่ยงด้านการลงทุนในแหล่งก๊าซดังกล่าวไปแทน
“ถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่งที่รอยัล ดัตช์ เชลล์ถอนตัวอย่างกะทันหันเช่นนี้ ทั้งที่พวกเขาขับเคี่ยวกับทางพีทีทีของไทยมานานเกือบครึ่งปี เพื่อแย่งชิงแหล่งก๊าซธรรมชาตินอกฝั่งแอฟริกาดังกล่าว และมีความเป็นไปได้ที่ทางรอยัล ดัตช์ เชลล์ อาจมีเหตุผลสำคัญบางประการ” แหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารเพื่อการลงทุนรายหนึ่งเผย
ทั้งนี้ มีรายงานซึ่งไม่มีการยืนยันว่า ทางรอยัล ดัตช์ เชลล์ได้พบแหล่งก๊าซธรรมชาติใหม่ ในพื้นที่อื่นๆ ทางตะวันออกของแอฟริกา ซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่า และคุ้มค่าต่อการลงทุนมากกว่า และอาจเป็นเหตุผลทำให้ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานรายนี้ ถอนตัวจากการเทคโอเวอร์ดังกล่าวแบบช็อกวงการ
