รอยเตอร์ - ตำรวจอิหร่านสั่งปิดภัตตาคารและร้านกาแฟหลายสิบแห่งในกรุงเตหะราน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าสถานที่เหล่านี้เป็นแหล่งมั่วสุมให้ประชาชนทำผิดศีลธรรมและขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม สื่ออิหร่านรายงาน
ตำรวจทั่วไปสนธิกำลังกับตำรวจศีลธรรมบุกทลายร้านกาแฟและภัตตาคาร 87 แห่งในย่านหนึ่งของกรุงเตหะราน เมื่อวันเสาร์(14) โดยได้จับกุมสตรีจำนวนหนึ่งที่ฝ่าฝืนกฎการแต่งกายของอิสลาม ตามรายงานของสำนักข่าวอิสนา
“ร้านอาหารเหล่านี้ถูกสั่งปิดเพราะไม่ปฏิบัติตามค่านิยมอิสลาม จำหน่ายบารากู่ (ยาสูบชนิดหนึ่ง) ให้กับผู้หญิง และไม่มีใบอนุญาต” อาลีเรซา เมห์ราบี ตำรวจเตหะรานนายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับ อิสนา
ทั้งนี้ สตรีชาวอิหร่านไม่ได้รับอนุญาตให้สูบบารากู่ในที่สาธารณะ
เมห์ราบี อธิบายว่า การปราบปรามครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสร้างความมั่นคงในชุมชน และจะดำเนินโครงการลักษณะนี้ในเขตอื่นๆของเมืองหลวงด้วย
คอฟฟีช็อปเริ่มเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยให้บริการทั้งอินเทอร์เน็ตไร้สาย, ขนมขบเคี้ยว, เครื่องดื่มร้อน และเป็นจุดนัดพบสำหรับวัยรุ่นในอิหร่าน ซึ่งไม่มีทั้งผับบาร์, คาเฟ่ หรือเครือภัตตาคารของตะวันตกอยู่เลย
อย่างไรก็ดี กระแสนิยมคอฟฟีช็อปก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยชาวอิหร่านหัวอนุรักษ์นิยม ซึ่งมองว่าเป็นการยัดเยียดวัฒนธรรมตะวันตกและไม่เข้ากับวิถีอิสลาม
รัฐบาลอิหร่านส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปปราบปรามพฤติกรรมที่ขัดต่อหลักศาสนาอยู่เป็นระยะ ซึ่งรวมถึงการพบปะสังสรรค์ระหว่างเพศตรงข้ามที่ยังไม่แต่งงานกันด้วย
เมื่อปี 2007 ตำรวจเตหะรานสั่งปิดอินเทอร์เน็ตคาเฟ่และคอฟฟีช็อป 24 แห่ง และจับกุมผู้กระทำผิดไป 23 คน