เอเอฟพี - ทหารญี่ปุ่นขนถุงยังชีพและสิ่งของช่วยเหลือทางอากาศเมื่อวันอาทิตย์(15) ไปแจกจ่ายประชาชนที่ถูกตัดขาดจากเหตุดินถล่มและฝนตกหนักทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 24 ราย สูญหายอีก 8 คน ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อาจมีฝนหนักต่อเนื่องอีก รวมถึงเกิดดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลัน
ภาพข่าวจากโทรทัศน์เผยให้เห็นทหารขนอาหาร น้ำดื่ม และเวชภัณฑ์ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ทหาร เพื่อนำไปส่งในพื้นที่ที่เป็นภูเขาในเมืองยาเมะ จังหวัดฟูกูโอกะ บนเกาะกิวชู
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นก็นำเฮลิคอปเตอร์กู้ภัย เข้าไปรับตัวผู้ป่วยและผู้สูงวัยจากพื้นที่ที่ถูกตัดขาดเพื่อนำส่งโรงพยาบาล
ความช่วยเหลือทางอากาศเหล่านี้ ทำให้สามารถเข้าถึงประชาชนราว 2,000 คนได้อีกครั้ง แต่ก็ยังมีอีกกว่า 3.500 คนที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกนับตั้งแต่คืนวันเสาร์ (14) เมื่อเกิดดินถล่มและต้นไม้ล้ม ขวางถนนตลอดจนสร้างความเสียหายให้ระบบจ่ายน้ำประปาในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งมีฝนตกหนักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนตั้งแต่วันพุธ(11)ที่ผ่านมา
คาโยะ ชิโนฮาระ โฆษกเมืองยาเมะ เผยว่าเจ้าหน้าที่จะจัดส่งเสบียงฉุกเฉินให้แก่ประชาชนต่อไป เนื่องจากไม่อาจรู้ได้ว่าจะสามารถเข้าถึงพื้นที่ประสบเหตุอย่างปลอดภัยได้เมื่อใด
เจ้าหน้าที่หลายรายระบุว่า ตอนเช้าวันอาทิตย์ (15) หน่วยกู้ภัยยังคงปฏิบัติหน้าที่ ในพื้นที่ประสบภัยอื่นๆ ของเกาะกิวชู ซึ่งพบผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 24 รายจากดินถล่มหรือน้ำท่วม และสูญหายอีกอย่างน้อย 8 ราย
โทรทัศน์เอ็นเอชเค ได้แพร่ภาพหน่วยกู้ภัยใช้เครื่องจักรกลขนาดหนักเคลื่อนย้ายต้นไม้ที่หักโค่น หินก้อนใหญ่ และซากปรักหักพัง ขณะที่ชาวบ้านใช้พลั่วตักโคลนที่กลบฝังบ้านอยู่
เอ็นเอชเครายงานด้วยว่า ประชาชน 3,600 คนได้รับคำสั่งหรือคำแนะนำให้อพยพออกจากบ้าน และมีบ้านเรือนอย่างน้อย 2,800 หลังถูกน้ำท่วม หลังจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเพิ่งยกเลิกคำแนะนำเดียวกันนี้แก่ประชาชนอีก 400,000 คนเมื่อเช้าวันอาทิตย์
แม้สภาพอากาศในวันอาทิตย์สดใสขึ้นบ้าง ทำให้เกิดความโล่งอกโล่งใจ ทว่า สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า ยังจะมีฝนตกหนัก ดินถล่ม และน้ำท่วมฉับพลันบนเกาะกิวชู ซึ่งเป็นเกาะหลักทางตอนใต้ของญี่ปุ่น
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาบอกว่า ถึงแม้ด้านเหนือของเกาะกิวชูได้ผ่านพ้นช่วงฝนตกหนักที่สุดไปแล้ว แต่ก็ยังน่าวิตกว่าบริเวณดังกล่าวอาจจะเผชิญฝนตกแรงพร้อมพายุฟ้าคะนองอีก เพราะมีกระแสลมอุ่นและชุ่มชื้นกำลังไหลไปยังแนวปะทะของฝน
เนื่องจากพื้นดินหลายส่วนในบริเวณดังกล่าวอ่อนตัวอยู่แล้ว ตลอดจนสายน้ำในแม่น้ำที่แบกรับน้ำฝนซึ่งตกหนักทำสถิติใหม่ก็ยังไหลบ่าล้นตลิ่งอยู่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นประชาชนจึงต้องระวังการเกิดดินถล่มและนำท่วมฉับพลัน
รายงานข่าวระบุว่า ที่เมืองอาโสะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟอาโสะ และเป็นจุดที่ประสบความเสียหายหนักที่สุดนั้น มีฝนตกวัดปริมาณได้ 81.7 เซนติเมตร (32.2 นิ้ว) และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย สูญหายอีก 4 คน
สถานีทีวีแพร่ภาพกระแสโคลนไหลเชี่ยว น้ำที่พัดพาซากปรักหักพัง และบ้านที่ถูกน้ำท่วมที่เกิดขึ้นภายหลังเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่อธิบายว่าเป็นฝนต้นฤดูที่ตกหนักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
นอกจากนี้ยังมีฝนตกหนักในเมืองเกียวโต ห่างจากพื้นที่ประสบภัยในกิวชูไปทางตะวันออก 500 กิโลเมตรเมื่อวันอาทิตย์ ส่งผลให้น้ำท่วมบ้านเรือนกว่า 20 หลัง
รายงานข่าวกล่าวว่า มีประชาชนในเกียวโตราว 20 คนถูกตัดขาดไปไหนไม่ได้ เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวซัดตลิ่งพังหลังจากฝนที่ตกหนักวัดปริมาณได้ 9 เซนติเมตรต่อชั่วโมง แต่พวกเขาได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัยแล้ว