“ทนายแม้ว” ยันตัวเองเป็นคนดี ไม่เคยว่าความช่วยคนโกง ขณะภาคประชาชนแซมเบียออกแถลงการณ์ประณาม

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่ปรึกษากฎหมายชื่อดังชาวแคนาดา ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยที่ถูกกองทัพโค่นอำนาจและอยู่ระหว่างหลบหนีคดีทุจริต ออกโรงตอบโต้ประธานาธิบดีไมเคิล ซาตา แห่งแซมเบีย โดยยืนยันตนเอง “เป็นคนดี” และไม่เคยว่าความช่วยเหลือคนโกงกินบ้านเมือง ขณะที่เครือข่ายภาคประชาชน “YOLA” ของแซมเบียออกแถลงการณ์ประณาม “ทนายแม้ว” บ่อนทำลายชื่อเสียงประเทศชาติ

ทนายความชื่อดังเจ้าของสำนักงานกฎหมาย “อัมสเตอร์ดัม แอนด์ พีร็อฟฟ์” ออกโรงโจมตีประธานาธิบดีไมเคิล ชิลุฟยา ซาตา ผู้นำแซมเบียคนปัจจุบันที่ก้าวขึ้นมาครองอำนาจตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว โดยระบุ ซาตาและพรรคแนวร่วมผู้รักชาติ (พีเอฟ) ใช้อำนาจโดยมิชอบในการข่มขู่คุกคามนักการเมืองฝ่ายค้านในประเทศ รวมถึงนายรูเปียห์ บันดา ลูกความของเขาซึ่งเป็นอดีตประธานาธิบดีที่กำลังถูกดำเนินคดีในหลายข้อหา รวมถึงการทุจริตถือเป็นความเคื่อนไหวล่าสุดเพื่อตอบโต้ หลังจากที่ประธานาธิบดีซาตาเองก็ได้กล่าวตำหนิอัมสเตอร์ดัมว่า เป็นนักกฎหมายที่ไม่เคยคำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรม และได้ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายความรายนี้ไปเมื่อเดือนก่อน

นักกฎหมายสัญชาติแคนาดารายนี้ออกโรงตอบโต้ผู้นำแซมเบียเมื่อวันจันทร์ (9) ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า ตนเองเป็นผู้ที่ยึดถือความถูกต้อง และตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ไม่เคยรับว่าความช่วยเหลือคนที่โกงกินบ้านเมือง โดยอัมสเตอร์ดัมย้ำว่าอดีตประธานาธิบดีรูเปียห์ บันดาวัย 75 ปี และเฮนรี บันดา บุตรชาย เป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกทางการแซมเบียกลั่นแกล้ง ตนจึงต้องเข้าช่วยเหลือ แต่ที่ผ่านมาตนเองก็ถูกกีดกันไม่ให้เดินทางเข้าประเทศแซมเบีย จึงไม่สามารถช่วยเหลือทางกฎหมายแก่สองพ่อลูกตระกูลบันดาได้อย่างเต็มที่

ล่าสุด เมื่อวันอังคาร (10) เครือข่ายภาคประชาชนของแซมเบียที่ใช้ชื่อว่า แนวร่วมพันธมิตรผู้นำรุ่นใหม่ (YOLA) ออกแถลงการณ์ประณามนายอัมสเตอร์ดัม โดยระบุ ทนายความต่างชาติรายนี้ แท้จริงแล้วเป็นเพียงแค่ “พวกหิวเงิน” ที่ทำงานรับใช้แต่บรรดาลูกความผู้มีฐานะและชื่อเสียง

แถลงการณ์ของกลุ่ม YOLA ระบุว่าประชาชนชาวแซมเบียรู้สึก “เหน็ดเหนื่อยเอือมระอา” กับอัมสเตอร์ดัม ที่ออกมากล่าวร้ายทำลายชื่อเสียงของประเทศอยู่เป็นระยะทุกครั้งที่ได้รับคำสั่งและเงินจากผู้เป็นนาย พร้อมแสดงความเป็นห่วงว่า ข้อมูลต่างๆที่นักกฎหมายรายนี้ออกมาเปิดเผยกับสื่อต่างประเทศ อาจส่งผลให้นานาชาติขาดความเชื่อถือในรัฐบาลแซมเบีย จนบรรดาประเทศผู้บริจาคอาจระงับเงินช่วยเหลือทางเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นย่อมเกิดผลกระทบต่อชะตากรรมของชาวแซมเบียที่ยากจนจำนวนมาก

ก่อนหน้านี้ อัมสเตอร์ดัมซึ่งตกลงรับทำงานให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2010 ก็เคยใช้วิธีการเดียวกันในการเดินสายเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ เอาผิดรัฐบาลไทยในยุคของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากกรณีเหตุสังหารหมู่ทางการเมืองในกรุงเทพฯ จนกระทบภาพลักษณ์ของประเทศไทยมาแล้วเช่นกัน