เอเจนซีส์ - กระทรวงการต่างประเทศจีนประกาศจะใช้มาตรการที่จำเป็นทุกวิถีทาง เพื่อปกป้องอธิปไตยเหนือหมู่เกาะพิพาทในทะเลจีนตะวันออก หลังญี่ปุ่นพิจารณาจะใช้เงินทุ่มซื้อเกาะเหล่านั้นจากเอกชนที่ถือกรรมสิทธิ์อยู่
หมู่เกาะเล็กๆร้างผู้คนซึ่งมีชื่อเรียกในภาษาญี่ปุ่นและจีนว่า “เซ็งกากุ” และ “เตี้ยวอี๋ว์” กลายเป็นประเด็นพิพาทระหว่างจีนและเพื่อนบ้านอีกหลายประเทศ ซึ่งต่างก็อ้างภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และเหตุผลอื่นๆมายืนยันอธิปไตยของตนเหนือหมู่เกาะเหล่านั้น ซึ่งเป็นทั้งแหล่งประมงชั้นดี และคาดว่ามีแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ด้วย
นายกรัฐมนตรี โยชิฮิโกะ โนดะ แห่งญี่ปุ่นแถลงเมื่อวานนี้(7)ว่า โตเกียวกำลังพิจารณาใช้เงินซื้อเกาะเซ็งกากุ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวสร้างความเดือดดาลแก่รัฐบาลปักกิ่งไม่น้อย
“เราจะไม่อนุญาตให้ใครซื้อขายดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา” หลิว เว่ยหมิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงในช่วงเย็นวานนี้(7) ผ่านทางเว็บไซต์ www.mfa.gov.cn
“จีนจะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อรักษาอธิปไตยเหนือเกาะเตี้ยวอี๋ว์ และหมู่เกาะที่อยู่ใกล้เคียง”
หลิว กล่าวย้ำอีกครั้งว่า หมู่เกาะดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของจีนมาแต่ครั้งโบราณกาล และอธิปไตยของจีนเหนือหมู่เกาะเหล่านี้มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์สนับสนุน อย่างที่ไม่อาจโต้แย้งได้
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ชินทาโร อิชิฮาระ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว เสนอให้ใช้เงินกองทุนสาธารณะเข้าซื้อหมู่เกาะเซ็งกากุจากเอกชนที่ถือครองอยู่ ส่งผลให้จีนออกมาตำหนิว่าเป็นแผนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าจีนถือกรรมสิทธิ์เหนือเกาะดังกล่าว
เมื่อปี 2008 โตเกียวและปักกิ่งต่างเห็นชอบในหลักการว่าจะร่วมพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติบริเวณหมู่เกาะพิพาท ทว่าก็แทบไม่มีความคืบหน้าใดๆ อีกทั้งญี่ปุ่นยังกล่าวหาว่าจีนลักลอบขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงด้วย