เอเจนซี - คลื่นความร้อนยังคงปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในภาคตะวันออกของสหรัฐฯ เป็นวันที่ 4 เมื่อวันจันทร์ (2) ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยธุรกิจห้างร้านและบ้านเรือนราษฎรราว 2.1 ล้านหลังยังต้องอยู่โดยปราศจากไฟฟ้า หลังจากพายุลมแรงและอุณหภูมิที่สูงขึ้น คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 18 ราย
บริษัทพลังงานเตือนว่าจะต้องใช้เวลาหลายวันถึงจะสามารถกู้คืนไฟฟ้าในบางพื้นที่ ขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ ตกอยู่ท่ามกลางความร้อนอบอ้าวจากอิทธิพลของคลื่นความร้อน และอุณหภูมิพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในหลายรัฐ
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า “อุณหภูมิที่สูงกว่าปกติจะยังมีผลกระทบกับพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศในช่วงหลายวันข้างหน้า ไล่ตั้งแต่เมืองเพลนส์ ทางเหนือ ไปจนถึงพื้นที่แถบแอตแลนติกตอนกลาง”
ถ้อยแถลงของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติระบุต่อว่า “หลายพื้นที่จะต้องผจญกับอุณหภูมิตั้งแต่ 32 องศาเซลเซียส ไปจนถึงมากกว่า 37.7 องศาเซลเซียส และยังขอเตือนเกี่ยวกับอากาศร้อนจัดในพื้นที่ส่วนใหญ่ของตอนกลางมิสซิสซิปปีวัลเลย์ และหลายมลรัฐทางใต้ของประเทศ”
นอกจากนี้แล้วยังมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดพายุฤดูร้อนในเคนทักกี และมิสซูรี รวมถึงหลายมลรัฐในแถบภาคกลางตอนบน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาระบุ
ทางการประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. รัฐโอไฮโอ รัฐเวอร์จิเนีย รัฐเวสต์เวอร์จิเนียและรัฐแมรีแลนด์ หลังเกิดพายุรุนแรงเทียบเท่าเฮอริเคนพัดถล่มกินบริเวณกว้างกว่า 700 ไมล์ (ราว 1,000 กิโลเมตร) ไล่ตั้งแต่แถบมิดเวสต์ ไปจนถึงมหาสมุทรแอตแลนติก
ภาคธุรกิจและบ้านเรือนราษฎรกว่า 2.1 ล้านหลัง จากอิลลินอยส์ จนถึงนิวเจอร์ซีย์ ยังคงต้องอยู่โดยปราศจากไฟฟ้าใช้ โดยเฉพาะที่วอชิงตัน ที่พบเห็นเสาไฟฟ้าล้มระเนระนาดทั่วพื้นที่ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ อนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐในวอชิงตันทำงานจากที่บ้านได้ในวันจันทร์(2) และอังคาร (3)