เอเอฟพี/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - อัตราการว่างงานของกลุ่มยูโรโซน หรือ 17 ประเทศที่ใช้เงินยูโร เป็นเงินตราสกุลหลักพุ่งสูงทำสถิติใหม่ที่ร้อยละ 11.1 ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยสเปนย่ำแย่สุดจากการที่ยอดว่างงานสูงกว่าร้อยละ 24.6 หรือเกือบ 1 ใน 4 ของประชากร
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งยุโรป (ยูโรสแตท) ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศลักเซมเบิร์กระบุว่า จำนวนผู้ว่างงานใน 17 ประเทศยูโรโซนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามีมากกว่า 17.5 ล้านคน หรือร้อยละ 11.1 ของประชากรยูโรโซนทั้งหมด ถือเป็นตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้นจากเดือนเมษายนที่อัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 11.0 นับเป็นยอดการว่างงานที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่มีการก่อตั้งกลุ่มยูโรโซนขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ. 1999 เป็นต้นมา ขณะที่ตัวเลขของผู้ว่างงานที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปีลงมาในกลุ่มยูโรโซนในเดือนพฤษภาคมยังคงเพิ่มขึ้นเป็น 3.4 ล้านคน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 254,000 ราย
ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาถึงอัตราการว่างงานทั่วทั้งสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งมีสมาชิกทั้งสิ้น 27 ประเทศ ในเดือนพฤษภาคมพบว่าเพิ่มขึ้นกว่า 151,000 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 10.3 จากเมื่อเดือนเมษายน ที่มีผู้ว่างงานในอียูร้อยละ 10.2
ทั้งนี้ สเปนถือเป็นประเทศที่มีอัตราการว่างงานเลวร้ายที่สุดในยูโรโซนที่ระดับร้อยละ 24.6 ของประชากร รองลงมา คือ กรีซที่ร้อยละ 21.9, ลัตเวีย ร้อยละ 15.3 และโปรตุเกส ร้อยละ 15.2
ในทางกลับกัน ออสเตรียถือเป็นดินแดนที่อัตราการว่างงานต่ำสุดที่ร้อยละ 4.1 ตามมาด้วยเนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก และเยอรมนีที่ร้อยละ 5.1, 5.4 และ 5.6 ตามลำดับ
