รอยเตอร์ - วิคเตอร์ บูท พ่อค้าอาวุธชาวรัสเซีย เจ้าของฉายา พ่อค้าความตาย” ซึ่งถูกศาลสหรัฐฯ ตัดสินว่ามีความผิดฐานก่อการร้าย และต้องรับโทษจำคุก 25 ปี จะยื่นอุทธรณ์การพิจารณาคดีของเขา ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างมอสโก และวอชิงตัน ตึงเครียดยิ่งขึ้น
บูทถูกศาลสหรัฐฯ ตัดสินโทษในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ฐานทำข้อตกลงค้าอาวุธกับสายลับของสหรัฐฯ ที่ปลอมตัวเป็นกลุ่มติดอาวุธโคลอมเบีย ซึ่งวางแผนโจมตีทหารอเมริกัน
วิกเตอร์ บูโรบิน ทนายความชาวรัสเซียของบูทกล่าวในการแถลงข่าวที่กรุงมอสโกวานนี้ (29) ว่า "เราตกลงจะดำเนินการขั้นต่อไปแล้ว อย่างแรกเราจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ และศาลสูงสุด จากนั้นก็จะยื่นคำร้องต่อคณะกรรมาธิการของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อขอลดหย่อนผ่อนโทษ แล้วจึงหาทางนำตัววิคเตอร์ บูทกลับบ้านเพื่อรับโทษที่นี่"
ด้าน องค์การนิรโทษกรรมสากลเคยระบุ ก่อนการจับกุมตัวพ่อค้าอาวุธชาวรัสเซีย วัย 46 ปีรายนี้ได้เมื่อปี 2008 ว่า เขามีส่วนพัวพันในข้อตกลงค้าอาวุธที่ละเมิดคำสั่งห้ามให้แก่กลุ่มติดอาวุธผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนในแองโกลา ไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
สำหรับคดีของบูทนี้ได้กระพือความตึงเครียดระหว่างทำเนียบขาว และเกรมลินให้รุนแรงยิ่งขึ้น โดยทางมอสโกมองว่าเป็นคดีที่มีแรงกระตุ้นทางการเมือง และพยายามหาทางนำตัวพลเมืองของตนเองกลับประเทศ
ด้าน เอลลา ภรรยาของบูท กล่าวในการแถลงข่าววันศุกร์ (29) เช่นกันว่า เธอไม่ได้หวังอะไรมากกับการยื่นอุทธรณ์ของสามี โดยเชื่อว่า คดีของบูทนั้นเป็นคำสั่งทางการเมืองจากวอชิงตัน เพื่อให้ได้ตัวเขาไป
"สิ่งที่เราต้องการคือความตั้งใจอย่างแรงกล้าทางการเมืองเพื่อนำตัวเขากลับรัสเซีย นอกเหนือจากความพยายามทั้งหมดของเราที่เป็นไปตามระเบียบแบบแผน" เธอกล่าว โดยเสริมว่า สามีของเธอที่กำลังติดคุกได้รับอนุญาตให้โทรศัพท์ได้เพียง 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 10 นาที และสามารถอ่านสิ่งพิมพ์ได้ 100 หน้าต่อเดือน
ยิ่งไปกว่านั้น เอลลา และบูโรบินยังแสดงความกังวลว่า ความขัดแย้งทางการทูตระหว่างรัสเซีย และสหรัฐฯ เกี่ยวกับกฏหมายของวอชิงตันที่จะลงโทษเจ้าหน้าที่มอสโกฐานละเมิดสิทธิมนุษย์นั้น ซึ่งเพิ่งผ่านสภาคองเกรสเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จะยิ่งส่งผลเสียต่อคดีของพวกเขา