เอเอฟพี - รัฐบาลออสเตรเลียประกาศมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ต่อซีเรีย ซึ่งจะจำกัดหรือปิดกั้นการค้าขายสินค้าทุกประเภท วันนี้ (25) ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศ บ็อบ คาร์ เรียกร้องให้รัสเซียยอมแสดงบทบาทผู้นำ เพื่อกดดันให้ซีเรียเปลี่ยนแปลงระบอบ
มาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่จะมีผลครอบคลุมทั้งการค้าน้ำมัน, ปิโตรเลียม, บริการทางการเงิน, ระบบโทรคมนาคม และโลหะมีค่า หลังจากที่ก่อนหน้านี้ออสเตรเลียสั่งห้ามค้าอาวุธกับซีเรีย และคว่ำบาตรบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้นำระดับสูงของดามัสกัสไปแล้ว
“รัฐบาลอัสซาดยังแสดงท่าทีไม่เต็มใจเจรจาหยุดยิงและยุติเหตุนองเลือดในซีเรีย” คาร์ระบุในถ้อยแถลง
“การคว่ำบาตรครั้งนี้สะท้อนคำประณามจากออสเตรเลีย และความพยายามของเราที่จะดึงซีเรียกลับสู่โต๊ะเจรจาให้จงได้”
ทั้งนี้ คาดว่าสหภาพยุโรปก็จะประกาศคว่ำบาตรรัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียเพิ่มเติมเช่นกัน ระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอียูที่ลักเซมเบิร์ก ในวันนี้ (25)
คาร์ซึ่งเพิ่งกลับจากประชุมในภูมิภาคตะวันออกกลาง เผยความคิดเห็นในบทความซึ่งตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์ดิ ออสเตรเลียน โดยเรียกร้องให้รัสเซียเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับไล่อัสซาด
คาร์ชี้ว่า รัสเซียในฐานะ 1 ใน 5 สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีหน้าที่ต้องแสดงความเป็นผู้นำ และขณะที่ความรุนแรงในซีเรียยังไม่มีทีท่าจะสงบลง บทบาทของมอสโกจึงเป็น “ทางออกเฉพาะหน้าเพียงทางเดียวที่มีอยู่”
“ที่สำคัญก็คือ รัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรนอกภูมิภาคที่สำคัญที่สุดของซีเรีย ยังมิได้แสดงท่าทีกดดันให้อัสซาดยอมล่าถอย เพื่อให้ผู้ที่มารับช่วงต่อสามารถเปิดเจรจากับฝ่ายต่อต้านได้”
“หากรัสเซียจะพิจารณาดูใหม่ ก็จะช่วยสร้างชื่อเสียงด้านความเป็นผู้นำ นอกเหนือจากการใส่ใจแต่ผลประโยชน์ของชาติตนเท่านั้น”
ที่ผ่านมา รัสเซียยังไม่ยอมเอออวยกับนานาชาติที่ต้องการโค่นอัสซาดลงจากตำแหน่งประธานาธิบดี ทั้งยังประกาศจะคัดค้านเต็มที่หากคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นจะมีมติอนุมัติให้กองกำลังต่างชาติเข้าแทรกแซงซีเรีย