เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยที่ถูกกองทัพโค่นอำนาจและอยู่ระหว่างหลบหนีคดีทุจริต ออกมาเปิดเผยว่า ตัวเขาได้ใช้ประโยชน์มากมายจากข้อมูลลับที่ถูกเผยแพร่โดยเว็บไซต์ “วิกิลีกส์” ของนายจูเลียน แอสซานจ์ พร้อมระบุผู้ก่อตั้งเว็บไซต์จอมแฉรายนี้ตัดสินใจถูกต้องแล้วที่เลือกขอลี้ภัยในเอกวาดอร์ ประเทศซึ่งมีนโยบายไม่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ
ท่าทีล่าสุดของทนายความสัญชาติแคนาดาแห่งสำนักงานกฎหมาย “อัมสเตอร์ดัม แอนด์ พีรอฟฟ์” รายนี้ มีขึ้นหลังจากที่นายแอสซานจ์วัย 40 ปีได้ร้องขอลี้ภัยทางการเมือง ณ สถานทูตเอกวาดอร์ประจำกรุงลอนดอนไม่นานหลังเขาถูกศาลอังกฤษพิพากษาเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา ให้ถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสวีเดนด้วยความผิดในคดีทางเพศ ท่ามกลางกระแสข่าวที่ระบุว่าจอมแฉชาวออสเตรเลียรายนี้อาจถูกส่งตัวต่อไปยังสหรัฐฯ เพื่อรับโทษจากกรณีที่วิกิลีกส์แฉข้อมูลลับทางการทูตและการทหารจำนวน “หลายแสนไฟล์” ที่กระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศทั่วโลก
“มันเป็นก้าวย่างที่ฉลาดมากที่แอสซานจ์เลือกลี้ภัยที่เอกวาดอร์ ผมเชื่อว่าทั้งตัวแอสซานจ์และประธานาธิบดีราฟาเอล กอร์เรียของเอกวาดอร์ ต่างก็มีผลประโยชน์แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน และทั้งคู่ยังมีจุดยืนที่สนับสนุนแนวคิดที่ต้องการให้ตรวจสอบอำนาจของรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วมกันอีก” อัมสเตอร์ดัมกล่าว พร้อมให้ความเห็นว่า ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์วิกิลีกส์น่าจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นในอีกหลายประเทศสำหรับข้อมูลต่างๆ ที่เขามีอยู่
ขณะเดียวกัน นายอัมสเตอร์ดัมยังเปิดเผยว่า ข้อมูลลับที่วิกิลีกส์นำออกมาเปิดเผยอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมานั้น ได้มีส่วนช่วยและเป็นประโยชน์อย่างมากในการทำคดีของเขา “บางคดี” แต่ทนายความรายนี้ไม่เปิดเผยรายละเอียดว่าเขาได้นำข้อมูลที่รั่วไหลชิ้นใดมาใช้ประโยชน์บ้าง
ความเคลื่อนไหวของนายอัมสเตอร์ดัมมีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่เขาเพิ่งถูกประธานาธิบดีไมเคิล ชิลุฟยา ซาตา แห่งแซมเบีย ยื่นฟ้องเอาผิดฐานหมิ่นประมาท เนื่องจากเขาไปกล่าวหาผู้นำแซมเบียวัย 75 ปีว่าใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อ “แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม” กรณีสั่งให้มีการปิดคดีพิพาทเรื่องเงินกู้จำนวน 14,000 ล้านควาชา (ราว 84.9 ล้านบาท) ระหว่างธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งแซมเบีย (DBZ) กับเอกชน 2 รายโดยมิชอบ
โดยประธานาธิบดีซาตาระบุว่า ข้อกล่าวหาของนายอัมสเตอร์ดัมจงใจชี้ว่าตัวเขาเป็นผู้นำที่ทุจริตโกงกินบ้านเมืองและไร้คุณธรรม ทั้งยังยักยอกเงินกองทุนสาธารณะ เป็นเหตุให้เขาต้องยื่นฟ้องเอาผิดทนายความชื่อก้องรายนี้เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี
ขณะที่ก่อนหน้านั้น เคนเนดี ซาเกนี รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายใน หรือ “กระทรวงมหาดไทย” แซมเบียเพิ่งออกประกาศห้ามอัมสเตอร์ดัมเดินทางเข้าประเทศ โดยระบุเป็นบุคคลที่ไม่เป็นที่ต้อนรับของประชาชนชาวแซมเบีย แม้ทางข้าหลวงใหญ่ของสหราชอาณาจักร อดีตประเทศเจ้าอาณานิคมของแซมเบีย จะอนุญาตให้อัมสเตอร์ดัมเดินทางเข้ามายังแซมเบียเป็นกรณีพิเศษโดยใช้วีซ่า “นักท่องเที่ยว” เพื่อช่วยเหลือทางกฎหมายแก่อดีตประธานาธิบดีรูเปียห์ บันดา และบุตรชายคือ เฮนรี บันดา ที่กำลังถูกทางการแซมเบียดำเนินคดีในหลายข้อหา รวมถึงข้อหาทุจริตโกงกิน