น้ำมัน-หุ้นสหรัฐฯ ขยับขึ้น หวังเฟดกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันตลาดนิวยอร์กวานนี้ (14) ขยับขึ้น แม้โอเปกมีมติคงกำลังผลิต หลังนักวิเคราะห์มองว่าข้อมูลทางเศรษฐกิที่ย่ำแย่ในสหรัฐฯ อาจนำพาให้เฟดต้องลงมือกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ และปัจจัยนี้เองก็ผลักให้วอลล์สตรีทปิดบวกแรงพอสมควร

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 83.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 10 เซ็นต์ ปิดที่ 97.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ยัวเซฟ ยัวสฟี รัฐมนตรีพลังงานแอลจีเรียเปิดเผยว่า 12 ชาติสมาชิกของโอเปก องค์การที่ผลิตน้ำมันถึง 1 ใน 3 ของน้ำมันที่ผลิตได้จากทั่วโลกเห็นพ้อง ณ ประชุมที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันพฤหัสบดี (14) ให้คงกำลังผลิตระดับปัจจุบันที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อไป ตามมติที่ตกลงกันไว้นับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน เชส ระบุว่า ผลประชุมโอเปกไม่ได้น่าประหลาดใจนัก แม้มีแรงกดดันจากบางชาติสมาชิกที่ต้องการให้ลดกำลังผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมันให้ผงกหัวขึ้น หลังจากดิ่งลงมากว่า 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันตลาดนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากข่าวลือว่าที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า อาจเปิดทางสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ตามหลังข้อมูลการจ้างงานและการบริโภคที่น่าผิดหวังของอเมริกา

รายงานข้อมูลภาคแรงงานและการบริโภคของสหรัฐฯ นี้ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักให้ตลาดหุ้นอเมริกาวานนี้ (14) ปิดบวกพอสมควรเช่นกัน ท่ามกลางความคาดหวังของนักลงทุนต่อแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่จากเฟด

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 155.38 จุด (1.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,651.76 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 17.72 จุด (0.63 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,836.33 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 14.22 จุด (1.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,329.10 จุด

ยอดผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานที่เพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและดัชนีราคาผู้บริโภคที่ลดลงในเดือนพฤษภาคม อันนับเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ถือเป็นสัญญาณแห่งความอ่อนแอรอบใหม่ในเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเฟดอาจต้องลงมือกระตุ้นเศรษฐกิจ

“จากตัวเลขของสหรัฐฯที่เผยแพร่ออกมาเมื่อเช้านี้ เราคาดหมายว่าเฟดอาจแถลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ระหว่างการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายวันพุธหน้า” บาร์ท มาเลก นักวิเคราะห์จากทีดี ซีเคียวริตีกล่าว