เอเชียเนื้อหอม! “ปูติน” เยือนจีนหวังกระชับสัมพันธ์รัสเซีย มะกันไม่น้อยหน้าส่ง “เพเนตตา” ไปอินเดีย

รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอเยนซี/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เดินทางถึงยังสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้วในวันนี้ (5) ถือเป็นการเริ่มภารกิจเยือนแดนมังกรอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 3 วัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 มหาอำนาจที่มีพรมแดนทางภูมิศาสตร์ติดต่อกันกว่า 4,300 กิโลเมตร ส่วนสหรัฐฯ ไม่น้อยหน้า ส่ง “เลียน เพเนตตา” รัฐมนตรีกลาโหมเยือนอินเดีย

นอกจากนั้นยังเป็นที่คาดกันว่า ประเด็นเรื่องการกำหนดท่าทีร่วมกันต่อสถานการณ์ในซีเรีย ความร่วมมือด้านพลังงาน และนโยบายต่างประเทศ ต่างเป็น “ประเด็นร้อน” ที่ผู้นำรัสเซียเตรียมหยิบยกมาหารือกับทางการจีนระหว่างการเยือนครั้งนี้

การเดินทางเยือนจีนของปูติน ถือเป็นการเดินทางเยือนชาติในเอเชียเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่ผู้นำวัย 59ปีรายนี้เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียเป็นสมัยที่ 3 เมื่อเดือนที่แล้ว

หนึ่งในหัวข้อหลักที่คาดว่าปูตินจะหยิบยกมาหารือกับจีนระหว่างการเยือนเป็นเวลา 3 วันคือ สถานการณ์ร้อนในซีเรีย ที่ล่าสุดทั้งรัสเซียและจีนต่างถูกกดดันอย่างหนักจากสหรัฐฯ และบรรดาผู้นำในสหภาพยุโรป (อียู) ที่ไม่พอใจบทบาทของรัสเซียและจีนที่ดูเหมือนจะยังคงให้การสนับสนุนในด้านต่างๆ ต่อรัฐบาลซีเรีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ทั้งที่โลกตะวันตกพบหลักฐานมากมายว่า รัฐบาลซีเรียยังคงใช้ความรุนแรงกวาดล้างฝ่ายต่อต้าน เป็นเหตุให้มีประชาชนผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากตลอดระยะเวลา 15 เดือนที่ผ่านมา

ด้านหนังสือพิมพ์ “ไชน่า เดลีย์” ของทางการจีน ได้ตีพิมพ์บทบรรณาธิการ ต้อนรับการเยือนของผู้นำรัสเซียโดยระบุ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซียกำลังดำเนินไปด้วยดี และมหาอำนาจทั้งสองต่างพร้อมก้าวเดินไปด้วยกันในอนาคต ทั้งยังระบุว่า รัฐบาลปักกิ่งและมอสโกพร้อมยืนเคียงข้างกันและกัน เพื่อปกป้องบรรทัดฐานอันดีงามของเวทีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ ปูตินมีกำหนดเข้าหารือกับประธานาธิบดีหูจิ่นเทาของจีน ณ มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่งวันนี้ (5) โดยนอกจากประเด็นเรื่องซีเรียแล้ว คาดว่าผู้นำทั้งสองจะหารือกันเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพลังงาน และนโยบายต่างประเทศด้วย ก่อนจะร่วมกันเป็นสักขีพยานในการลงนามกรอบความร่วมมือทางการทูตและข้อตกลงทางธุรกิจรวม 17 ฉบับ ที่จะส่งผลให้ปริมาณการค้าจีนและรัสเซียเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่แล้วที่ยอดการค้าขายระหว่างมหาอำนาจทั้งสองพุ่งสูงแตะระดับ 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.53 ล้านล้านบาท) เป็นครั้งแรก

ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า เลียน เพเนตตา รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐฯ ที่เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจในการเยือนเวียดนาม ได้ออกเดินทางไปเยือนอินเดียเป็นที่หมายต่อไปในวันนี้ (5) โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเตรียมหารือกับรัฐบาลอินเดียเกี่ยวกับการที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำลังปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์หันมาให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชีย โดยหวังให้อินเดียเป็นหุ้นส่วนด้านยุทธศาสตร์ที่สำคัญของรัฐบาลวอชิงตันในภูมิภาคนี้

ทั้งนี้ ระหว่างการเยือนอินเดียเป็นเวลา 2 วัน คาดว่าเพเนตตาจะหารือกับทางการอินเดียเกี่ยวกับการขยายขอบข่ายความร่วมมือทางการทหาร, บทบาทของกองกำลังองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ในอัฟกานิสถานที่กำลังจะสิ้นสุดลงภายในปี ค.ศ. 2014 รวมถึงหารือเรื่องอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการทหารของจีนในเอเชียที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเพเนตตามีกำหนดเข้าพบกับมันโมฮาน ซิงห์ นายกรัฐมนตรีอินเดีย และชิฟ ชันการ์ เมนอน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของอินเดียในวันนี้ (5) ก่อนมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์เชิงนโยบายในวันพุธ (6)