เอเอฟพี - ตำรวจญี่ปุ่นสอบสวนหญิงรายหนึ่งซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาร่วมปล่อยก๊าซพิษซารินในสถานีรถไฟใต้ดินโตเกียว เมื่อปี 1995 จนมีผู้เสียชีวิตไป 13 ราย และนับเป็นเหตุสังหารหมู่ครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์แดนปลาดิบ ทำให้ขณะนี้ยังเหลือผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีลอยนวลอยู่เพียงรายเดียว
นาโอโกะ คิคูจิ ถูกจับกุมฐานต้องสงสัยฆาตกรรมเมื่อเย็นวานนี้ (3) ที่เมืองซางามิฮาระ ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว หลังจากตำรวจได้รับรายงานว่าเธอซ่อนตัวอยู่ที่เมืองนี้ สื่อญี่ปุ่นรายงาน
คิคูจิ วัย 40 ปี เป็นสมาชิกกลุ่มโอมชินริเกียว 1 ใน 2 รายที่ยังหลบหนีการจับกุม และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมผลิตก๊าซซารินที่ใช้โจมตีผู้โดยสารในสถานีรถไฟใต้ดิน เมื่อ 17 ปีก่อน
เธอแจ้งกับตำรวจว่า “ฉันมีส่วนร่วมผลิตก๊าซซารินจริง แต่ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าเรากำลังผลิตอะไร”
ขณะนี้เหลือเพียง คัตสึยะ ทากาฮาชิ วัย 54 ปี ผู้ต้องหารายสุดท้ายที่ยังหนีการจับกุม
ตลอด 17 ปีที่ผ่านมา คิคูจิต้องปกปิดชื่อแซ่ของตัวเอง โดยบอกเพื่อนบ้านว่าเธอเป็นพนักงานบัญชีของบริษัทด้านการพยาบาลแห่งหนึ่ง
สำนักข่าวจิจิเพรสรายงานว่า หญิงรายนี้บอกกับตำรวจว่า “ฉันใช้ชื่อใหม่ว่า จิซูโกะ ซากูราอิ แต่ตอนนี้ฉันสบายใจที่ไม่ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไปแล้ว”
คิคูจิ อาศัยอยู่กับชายวัย 41 ปีคนหนึ่งซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกโอมชินริเกียว และเขาก็ยอมอยู่กับเธอแม้จะทราบความจริงว่าเธอเป็นใคร ตำรวจจึงจับกุมชายคนนี้ด้วยฐานให้ที่หลบซ่อนอาชญากร
เหตุโจมตีรถไฟใต้ดินเมื่อปี 1995 ถือเป็นการสังหารหมู่ครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น โดยคนร้ายนำก๊าซซารินแบบเดียวกับที่กองทัพนาซีผลิตขึ้นมาปล่อยในขบวนรถไฟใต้ดินในชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งส่งผลให้ชาวญี่ปุ่นในขณะนั้นต่างหวาดผวาการโดยสารรถไฟใต้ดินไปพักใหญ่
1 ปีก่อนหน้านั้น กลุ่มโอมชินริเกียวยังเคยใช้ก๊าซพิษซารินโจมตีเมืองมัตสึโมโตะทางตอนกลางของญี่ปุ่น จนมีผู้เสียชีวิตไป 8 ราย และบาดเจ็บอีกนับพันคน ในจำนวนนั้นมีทั้งที่บาดเจ็บสาหัสและเกิดปัญหาสุขภาพอย่างถาวร ซึ่งเกิดจากก๊าซดังกล่าวเข้าไปทำลายระบบประสาท
โชโกะ อาซาฮารา เจ้าลัทธิโอมชินริเกียว ซึ่งสั่งสอนแนวคิดแบบพุทธผสานฮินดูและยิว กำลังป่วยเป็นโรคจิตหวาดระแวงว่าคนจะใช้ก๊าซพิษซารินทำร้ายตนเอง