เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดิ่งแตะระดับต่ำสุดรอบ 7 เดือนครั้งใหม่เมื่อวันพฤหัสบดี (31) หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้นท่ามกลางความกังวลว่าสเปนอาจต้องรับความช่วยเหลือ ขณะที่ปัจจัยนี้ประกอบกับข้อมูลทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของสหรัฐฯ ยังฉุดให้วอลล์สตรีทปิดลบเล็กน้อย
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 1.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 85.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 101.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข้อมูลอันอ่อนแอเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจไตรมาสแรกของสหรัฐฯ และตลาดงานในเดือนพฤษภาคม ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจของชาติมหาอำนาจแห่งนี้ยังต้องตะเกียกตะกายในความพยายามเร่งฝีก้าวและผลักดันให้นักลงทุนเทขายออกมา
ขณะเดียวกัน ตลาดน้ำมันยังถูกซ้ำเติมจากข้อมูลคลังเชื้อเพลิงสำรองประจำสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่พบว่าสต๊อกน้ำมันดิบของประเทศเมื่อสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 พฤษภาคม เพิ่มขึ้นถึง 2.2 ล้านบาร์เรล บ่งชี้ถึงอุปสงค์อันอ่อนแอภายในชาติผู้บริโภครายใหญ่ของโลกแห่งนี้
ทั้งนี้ ความกังวลต่อสถานะการเงินของสเปน ที่อาจต้องขอรับเงินช่วยเหลือโดยตรงจากกองทุนฟื้นฟูยูโรโซน ส่งผลให้ค่าเงินยูโรปรับลงไปอยู่ที่ 1.2337 ดอลลาร์ ทำสถิติอ่อนค่าที่สุดในรอบ 23 เดือนครั้งใหม่เมื่อวันพฤหัสบดี (31)
ด้าน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (31) ปิดลบเล็กน้อย หลังข้อมูลอันน่าผิดหวังทางเศรษฐกิจและภาคแรงงานในประเทศ กดดันให้นักลงทุนเทขายออกมา
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 23.99 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,395.87 จุด แนสแดค ลดลง 10.02 จุด (0.35 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,827.34 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 2.84 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,310.48 จุด
นักลงทุนแสดงความวิตกหลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับลดประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในช่วงไตรมาสแรกลงจากร้อยละ 2.2 เหลือ 1.9 ยืนยันถึงภาวะเฉื่อยชา ขณะที่รายงานของภาคแรงงานทั้งยอดผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานรายสัปดาห์และการจ้างงานภาคเอกชนเดือนพฤษภาคม ซึ่งออกมาน่าผิดหวัง ก็ให้เห็นถึงสถานะที่เปราะบางของเศรษฐกิจอเมริกา