เอเจนซี - ประชาชนหลายพันคนทางตอนเหนือของอิตาลี ยังคงหลับนอนในเตนท์และรถยนต์ด้วยความหวาดกลัวตั้งแต่ช่วงค่ำคืนวันอาทิตย์ (20) และต่อเนื่องจนถึงค่ำคืนวันจันทร์(21) หลังเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกกว่าร้อยครั้ง นับตั้งแต่พื้นที่แถบนี้เผชิญเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 6.0 เมื่อเช้ามืดวันอาทิตย์ (20) ที่คร่าชีวิตผู้คน 7 ศพและก่อความเสียหายร้ายแรงต่อโบราณสถาน
“ความหวาดกลัวที่บ้านจะพังถล่มลงมามันยังวนเวียนอยู่ในหัว ดังนั้นคงดีกว่าที่เราจะนอนในเต็นท์” ชายคนหนึ่งที่กางเต็นท์นอนในที่แจ้งท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นของเมืองซาน เฟลิเซ ซัล ปานาโร กล่าว
ฝนที่ตกลงมาก่อความทุกข์ยากเพิ่มเติมแก่ประชาชนที่ตัดสินใจทิ้งบ้านเรือนของตนเองมากินอยู่หลับนอนในที่โล่ง ขณะเดียวกันมันก็ยังทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือนเป็นไปอย่างยากลำบากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านส่วนใหญ่บอกว่าพวกเขามีความพึงพอใจต่อปฏิบัติการช่วยเหลือ “พวกเขาตั้งเต็นท์เร็วมาก มันทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัย” หญิงชรารายหนึ่งบอก
เหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันอาทิตย์ (20) คร่าชีวิตคนงานกะกลางคืนของโรงงานต่างๆ ไป 4 คน ส่วนผู้หญิงรายหนึ่งถูกเหล็กกระแทกใส่จนหมดลมหายใจ ขณะที่สตรีอีก 2 คนเสียชีวิตด้วยอาการช็อค
ประมาณการณ์ว่าธรณีพิโรธครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมกว่า 200 ล้านยูโร และสร้างความเสียหายไปทั่วเอมิเลีย-โรมานญา โบสถ์เก่าแก่หลายหลังพังพาบลงมาและสร้างความเสียหายแก่ปราสาทแห่งหนึ่งที่ทนทานต่อสงครามและการรุกรานมานานกว่า 7 ศตวรรษ
หอนาฬิกาในยุคศตวรรษที่ 14 ในเมืองฟินาเล เอมิเลีย แตกเป็นแนวเส้นตรงเหมือนถึงตัดครึ่งท่อน ผลจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ณ 04.04 น.ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้เรือนนาฬิกาตัวเลขโรมันเหลือเพียงครึ่งเดียว อย่างไรก็ตามอีก 12 ชั่วโมงต่อมา อาฟเตอร์ช็อกระดับ 5.1 ก็เขย่าที่เหลือพังตามลงมาทั้งหมด
แผ่นดินไหวครั้งนี้ได้ก่อความสูญเสียแก่มรดกทางศิลปะครั้งเลวร้ายที่สุดของอิตาลีนับตั้งแต่เหตุธรณีพิโรธเมื่อปี 1997 ที่สั่นสะเทือนจนโบสถ์ของนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซี พังถล่มลงมา
หลังคาวิหารในมิรันโดลา ทรุดตัวลงมา นอกจากนี้ปราสาทเอสเซนเซ และหอคอยหลายแห่งในปราสาทสมัยกลางแห่งนี้ที่อยู่ในเมืองซาน เฟลิเซ ซัล ปานาโร ยังได้รับความเสียหายรุนแรงเช่นเดียวกับโบสถ์ 6 แห่งในเมืองเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีรายงานความเสียหายรุนแรงในอาคารและโบสถ์เก่าแก่ในแคว้นโมดินาและแฟร์ราราด้วย
แผ่นดินไหวยังทำให้เกิดหลุมลึกขนาดใหญ่ภายในศาลาว่าการเมืองเซนต์เอโกสติโน ซึ่งเจ้าหน้าที่กังวลว่าอาคารอาจทรุดลง ขณะที่พื้นที่ประสบภัยต่างๆ ยังต้องผจญอาฟเตอร์ช็อคอย่างต่อเนื่องในวันจันทร์ (21)
“ความหวาดกลัวที่บ้านจะพังถล่มลงมามันยังวนเวียนอยู่ในหัว ดังนั้นคงดีกว่าที่เราจะนอนในเต็นท์” ชายคนหนึ่งที่กางเต็นท์นอนในที่แจ้งท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นของเมืองซาน เฟลิเซ ซัล ปานาโร กล่าว
ฝนที่ตกลงมาก่อความทุกข์ยากเพิ่มเติมแก่ประชาชนที่ตัดสินใจทิ้งบ้านเรือนของตนเองมากินอยู่หลับนอนในที่โล่ง ขณะเดียวกันมันก็ยังทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือนเป็นไปอย่างยากลำบากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านส่วนใหญ่บอกว่าพวกเขามีความพึงพอใจต่อปฏิบัติการช่วยเหลือ “พวกเขาตั้งเต็นท์เร็วมาก มันทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัย” หญิงชรารายหนึ่งบอก
เหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันอาทิตย์ (20) คร่าชีวิตคนงานกะกลางคืนของโรงงานต่างๆ ไป 4 คน ส่วนผู้หญิงรายหนึ่งถูกเหล็กกระแทกใส่จนหมดลมหายใจ ขณะที่สตรีอีก 2 คนเสียชีวิตด้วยอาการช็อค
ประมาณการณ์ว่าธรณีพิโรธครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมกว่า 200 ล้านยูโร และสร้างความเสียหายไปทั่วเอมิเลีย-โรมานญา โบสถ์เก่าแก่หลายหลังพังพาบลงมาและสร้างความเสียหายแก่ปราสาทแห่งหนึ่งที่ทนทานต่อสงครามและการรุกรานมานานกว่า 7 ศตวรรษ
หอนาฬิกาในยุคศตวรรษที่ 14 ในเมืองฟินาเล เอมิเลีย แตกเป็นแนวเส้นตรงเหมือนถึงตัดครึ่งท่อน ผลจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ณ 04.04 น.ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้เรือนนาฬิกาตัวเลขโรมันเหลือเพียงครึ่งเดียว อย่างไรก็ตามอีก 12 ชั่วโมงต่อมา อาฟเตอร์ช็อกระดับ 5.1 ก็เขย่าที่เหลือพังตามลงมาทั้งหมด
แผ่นดินไหวครั้งนี้ได้ก่อความสูญเสียแก่มรดกทางศิลปะครั้งเลวร้ายที่สุดของอิตาลีนับตั้งแต่เหตุธรณีพิโรธเมื่อปี 1997 ที่สั่นสะเทือนจนโบสถ์ของนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซี พังถล่มลงมา
หลังคาวิหารในมิรันโดลา ทรุดตัวลงมา นอกจากนี้ปราสาทเอสเซนเซ และหอคอยหลายแห่งในปราสาทสมัยกลางแห่งนี้ที่อยู่ในเมืองซาน เฟลิเซ ซัล ปานาโร ยังได้รับความเสียหายรุนแรงเช่นเดียวกับโบสถ์ 6 แห่งในเมืองเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีรายงานความเสียหายรุนแรงในอาคารและโบสถ์เก่าแก่ในแคว้นโมดินาและแฟร์ราราด้วย
แผ่นดินไหวยังทำให้เกิดหลุมลึกขนาดใหญ่ภายในศาลาว่าการเมืองเซนต์เอโกสติโน ซึ่งเจ้าหน้าที่กังวลว่าอาคารอาจทรุดลง ขณะที่พื้นที่ประสบภัยต่างๆ ยังต้องผจญอาฟเตอร์ช็อคอย่างต่อเนื่องในวันจันทร์ (21)
