เอเอฟพี - ราคาน้ำมันลอนดอนดิ่งแรงเมื่อวันพฤหัสบดี (17) แตะระดับต่ำสุดตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ท่ามกลางความกังวลว่าวิกฤตหนี้กรีซอาจลุกลามไปทั่วยูโรโซน อันจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์พลังงาน ขณะที่ปัจจัยนี้เองประกอบกับปัญหาเศรษฐกิจสเปนก็ฉุดให้วอลล์สตรีทปิดลบอย่างหนักเช่นกัน
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ ลดลง 25 เซ็นต์ ปิดที่ 92.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 2.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 107.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคมปีที่แล้ว
“ราคาน้ำมันลอนดอนยังคงดิ่งลงต่อเนื่อง” ไมเคิล ฮิวสัน นักวิเคราะห์จากซีเอ็มซี มาร์เกตส์ กล่าว “ดูเหมือนว่าตลาดจะมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปัญหา ณ ปัจจุบันของยุโรป”
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (17) ก็ปิดลบมากกว่าร้อยละ 1 หลังยังถูกกดดันจากข่าวแง่ลบจากยุโรป ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางการเมืองในกรีซและข้อมูลที่ชี้ว่าสเปนกำลังร่วงสู่ภาวะถดถอย
ทั้งนี้ รายงานผลประกอบการอันแข็งแกร่งของวอลล์-มาร์ต บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของโลก ไม่เพียงพอที่จุดประกายความหวังแก่นักลงทุนในวอลล์สตรีท
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 157.50 จุด (1.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,441.05 จุด แนสแดค ลดลง 60.35 จุด (2.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,813.69 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 19.92 จุด (1.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,304.88 จุด
สถิติของทางการสเปนระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกของปีนี้หดตัวร้อยละ 0.3 ทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างเป็นทางการ เนื่องจากจีดีพีไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนหดตัวร้อยละ 0.3 เช่นเดียวกัน
ตัวเลขล่าสุดนี้ยืนยันตัวเลขเบื้องต้นที่สถาบันสถิติแห่งชาติสเปนเคยประเมินเมื่อเดือนก่อน ตอกย้ำว่าประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 4 ของยูโรโซนแห่งนี้กำลังเข้าสู่ภาวะล่อแหลม ขณะที่กำลังหาทางลดอัตราว่างงานที่สูงเป็นประวัติการณ์ถึงร้อยละ 24.4