ฟิลิปปินส์อาจซื้อเครื่องบินรบจากประเทศอื่นที่ไม่ใช่สหรัฐฯ

เอเอฟพี - ประธานาธิบดีเบนิโญ อากิโน เผย วันนี้ (16) ฟิลิปปินส์กำลังพิจารณาติดอาวุธให้กับกองทัพ ด้วยเครื่องบินขับไล่เฉพาะทาง ที่ผลิตนอกสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก ท่ามกลางกรณีพิพาทด้านดินแดนกับประเทศจีน

ในเดือนที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์เรียกร้องให้สหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศพันธมิตร ช่วยส่งเครื่องบิน เรือตรวจการณ์ และระบบเรดาร์ เพื่อช่วยให้บรรลุสิ่งที่รัฐบาลมะนิลาระบุว่าเป็น “ระบบป้องกันประเทศขั้นต่ำที่น่าเชื่อถือ”

อากิโนกล่าวว่า รัฐบาลของเขาขอซื้อเครื่องบินเอฟ-16 มือสองจากสหรัฐฯ แต่ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงอาจสูงเกินไป เนื่องจากอายุการใช้งานของอากาศยานเหล่านั้นมากแล้ว

“เราอาจต้องลงท้ายด้วยการใช้เงิน 400-800 ล้านดอลลาร์ต่อฝูงบิน แล้วเราก็กำลังพิจารณาว่าจะตั้งฝูงบิน 2 กอง” ผู้นำฟิลิปปินส์กล่าวในระหว่างให้สัมภาษณ์ทางสถานีวิทยุบอมโบ

“เรามีทางเลือก และนี่เป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจ เหมือนกับว่าเรามีศักยภาพที่จะซื้อของใหม่ได้ แต่ไม่ใช่จากอเมริกา” อากิโนกล่าว โดยไม่ได้อ้างอิงถึงรุ่นของเครื่องบินดังกล่าว

“เครื่องบินเหล่านี้ผลิตโดยประเทศพัฒนาแล้วอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งผมจะไม่เอ่ยชื่อในเวลานี้” เขาเสริม

ประธานาธิบดีอากิโนชี้ว่า มะนิลาปลดประจำการเอฟ-5 เครื่องบินต่อสู้ลำสุดท้ายสมัยสงครามเกาหลี ในปี 2005 โดยยังคงใช้งานเครื่องบินฝึก เอส211 ซึ่งผลิตโดยบริษัทมาร์เชตตี ของอิตาลี สำหรับใช้ในการโจมตีกลุ่มก่อความไม่สงบทางภาคพื้นดินเป็นบางครั้ง

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากเอฟ-5 ฟิลิปปินส์ก็เคยพึ่งพาเครื่องบินมือสองที่ล้าสมัยจากสหรัฐฯ เช่น ที-33 และพี-51 มัสแตง ในการโจมตีกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งเวลานี้มะนิลาไม่มีระบบการป้องกันทางอากาศที่มีประสิทธิภาพเลย

ยิ่งไปกว่านั้น ฟิลิปปินส์กำลังเผชิญความขัดแย้งทางทะเลกับจีน เกี่ยวกับหมู่เกาะปะการังสการ์โบโรห์ และน่านน้ำโดยรอบในทะเลจีนใต้ โดยทั้งสองประเทศต่างทอดสมอเรือไว้ในบริเวณดังกล่าวมานานกว่าเดือนแล้ว เพื่ออ้างสิทธิเหนือดินแดนนั้น