“ปินส์” วอนสหรัฐฯ ช่วยเสริมศักยภาพกองทัพไว้ต่อกร “จีน”

เอเอฟพี - รัฐบาลฟิลิปปินส์โอดครวญถึงปัญหากองทัพที่ยังด้อยศักยภาพ พร้อมวิงวอนให้สหรัฐฯ และนานาประเทศช่วยพัฒนา “ระบบป้องกันประเทศขั้นต่ำที่น่าเชื่อถือ” ท่ามกลางข้อพิพาทเรื่องพื้นที่ทับซ้อนกับจีน วานนี้ (30)

อัลแบร์ต เดล โรซาริโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ พร้อมด้วย วอลแตร์ แกซมิน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เผยความปรารถนาดังกล่าวระหว่างแถลงข่าวร่วมกับ ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และ เลียน เพเนตตา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ณ กรุงวอชิงตัน

เดล โรซาริโอ โอดครวญเรื่องที่สื่อต่างชาติรายงานว่ากองทัพฟิลิปปินส์นั้นอยู่ในสภาพอ่อนแอเหลือเกิน

“มันเป็นคำบรรยายที่ฟังแล้วเจ็บปวดสำหรับฟิลิปปินส์ แต่ที่เจ็บยิ่งกว่านั้นก็เพราะมันเป็นความจริง และเราจะโทษใครไม่ได้ นอกจากตัวเราเอง” รัฐมนตรีต่างประเทศเมืองตากาล็อกเผยอย่างตรงไปตรงมา โดยมีคลินตัน และเพเนตตา นั่งรับฟังอยู่อีกมุมหนึ่ง

“เพื่อให้เราสามารถจะเป็นหุ้นส่วนที่สหรัฐฯ พึ่งพาอาศัยได้บ้างในภูมิภาคนี้ เราจำเป็นต้องเสาะหาวิธีที่จะเสริมสถานะด้านการป้องกันประเทศอันน่าเชื่อถือ แม้จะอย่างน้อยที่สุดก็ตามที... ในส่วนของเรา เราก็จะทำอย่างดีที่สุด”

“การพัฒนาระบบป้องกันประเทศที่น่าเชื่อถืออย่างต่ำที่สุดนี้ อาจทำได้โดยยกระดับความเข้มข้นของกิจกรรมที่เราสองประเทศทำร่วมกันภายใต้สนธิสัญญา รวมถึงพิจารณามอบความช่วยเหลือแก่เราเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราคาดหวังในเวลานี้”

สหรัฐฯ และฟิลิปปินส์เพิ่งเสร็จสิ้นการซ้อมรบร่วมไปเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยตามข้อตกลงด้านกลาโหมระหว่าง 2 ประเทศ วอชิงตันจะต้องให้ความช่วยเหลือแก่ฟิลิปปินส์หากถูกชาติอื่นรุกรานทางทหาร

“เรายังคอยความช่วยเหลือจากประเทศหุ้นส่วนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน” เดล โรซาริโอกล่าวเสริม

ด้านแกซมินก็เอ่ยไปถึงข้อพิพาทกับจีนเรื่องหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ พร้อมชี้ถึงความจำเป็นที่จะต้อง “เสริมสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน (กับสหรัฐฯ) เพื่อธำรงรักษาความมั่นคงในน่านน้ำ และเสรีภาพด้านการเดินเรือ”

ความสัมพันธ์ระหว่างมะนิลากับปักกิ่งกำลังตึงเครียดหนักจากข้อพิพาทเรื่องหมู่เกาะปะการังในทะเลจีนใต้ โดยทั้ง 2 ชาติต่างส่งเรือรบเข้าไปประจำการที่นั่นนานกว่า 3 สัปดาห์เพื่ออ้างอธิปไตย

ฟิลิปปินส์ยืนยันว่า หมู่เกาะปะการังสการ์โบโรห์ (Scarborough Shoal) เป็นดินแดนของตน เพราะยังอยู่ในรัศมีเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเล ตามกฎหมายระหว่างประเทศ

ด้านคลินตันก็ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า การพบกันครั้งแรกของเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้ง 4 คน ถือเป็นบทพิสูจน์เจตนารมณ์ของทั้ง 2 ฝ่ายที่จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ

คลินตันยังแสดงความเป็นห่วงเรื่องหมู่เกาะสการ์โบโรห์ พร้อมชี้ว่าสหรัฐฯ ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใด แต่ประเด็นดังกล่าวกระทบต่อเสรีภาพในการเดินเรือ, สันติภาพ และเสถียรภาพ ซึ่งเกี่ยวพันกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน