เอเอฟพี - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิลครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 1,100 เมือง ถูกปกคลุมไปด้วยความแห้งแล้งครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 50 ปี และจุดชนวนสู้กันเพื่อแย่งน้ำในแถบชนทจนเสียชีวิตไปแล้วหลายราย
หนังสือพิมพ์โอ โกลโบ รายงานเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ภัยแล้งครั้งรุนแรงนี้ก่อให้เกิด “สงครามแย่งน้ำ” ในพื้นที่ชนบท ซึ่งคร่าชีวิตชาวบ้านเฉลี่ยแล้ววันละ 1 คน ขณะที่สัตว์จำนวนมากต่างล้มตายเพราะทนความร้อนและแห้งแล้งไม่ไหว
นอกจากนี้แล้ว หน้าแล้งครั้งสาหัสในปีนี้ยังก่อให้เกิดผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนท้องถิ่นและปศุสัตว์ทั้งหลาย โดยบรรดาผู้เลี้ยงสัตว์หลายรายต้องประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ ทำสัตว์ที่เลี้ยงไว้ตายไปกว่าครึ่ง จนรัฐบาลบราซิล ต้องปรับลดประมาณการผลผลิตข้าวโพด ถั่วเหลือง และธัญพืชอีกหลายชนิด
ในรัฐเปร์นัมบูกู เทศบาล 66 แห่งต้องประกาศสภาวะฉุกเฉินทางน้ำ ขณะที่แม่น้ำหลายสายแห้งขอด และฝูงสัตว์ที่พยายามตะเกียกตะกายหาน้ำก็พบแต่เพียงดินโคลนเท่านั้น
รายงานข่าวระบุต่อด้วยว่า ระดับน้ำในเขื่อนก็เหลือน้อยเต็มที ขณะเดียวกันก็มีการฉวยโอกาสจากภัยแล้งนี้ ด้วยนักการเมืองบางคนนำรถไปแจกจ่ายน้ำแก่ชาวบ้านแลกกับสัญญาว่าจะลงคะแนนให้ในศึกเลือกตั้ง
