เอเอฟพี - เครือข่ายอัลกออิดะห์ ซึ่งยึดครองพื้นที่ทางตอนเหนือของมาลี เริ่มเผยแผ่คำสอนอิสลามแบบสุดโต่ง ด้วยการทำลายสุสานแห่งหนึ่งในเมืองโบราณทิมบุคตู โบราณสถานเก่าแก่ ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเผย วานนี้ (5)
การบุกทำลายแหล่งอารยธรรมโบราณ ซึ่งองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ประกาศให้เป็นมรดกโลกครั้งนี้ ถูกเปิดเผยขึ้น ในขณะที่ทางการมาลีกำลังควบคุมสถานการณ์ในกรุงบามาโก หลังความพยายามของทหารระดับสูงกลุ่มหนึ่งที่จะโค่นคณะรัฐประหารที่มียศต่ำกว่า ล้มเหลวลงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
กลุ่มอิสลามิสต์และกบฏตัวเร็ก (Tuareg) ฉวยโอกาสที่เกิดรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา ขับไล่ทหารของรัฐบาลออกไปจากตอนเหนือของประเทศ ซึ่งประกอบไปด้วย เมืองเกา, คิดาล และ ทิมบุคตู
ชาวบ้านในเมืองทิมบุคตูคนหนึ่ง เล่าว่า กลุ่มอัลกออิดะห์ในรัฐอิสลามมัฆริบ (AQIM) เดินทางจากต่างประเทศ หรือภูมิภาคอื่นๆ เข้ามายังเมืองแห่งนี้ และแจกจ่ายอาหารแก่ชาวบ้าน โดยอ้างว่า พวกเขามาเพื่อทำสงครามศักดิ์สิทธิ์
“เอคิวไอเอ็ม ซึ่งมีพวกกลุ่มติดอาวุธ อันซาร์ ไดน์ (Ansar Dine) หนุนหลัง ได้เข้าไปเผาทำลายสุสานนักบุญซิดี (มะห์มูด บิน) อามาร์” เจ้าหน้าที่คนหนึ่ง เผย
“พวกเขายังประกาศว่าจะทำลายสุสานอื่นๆ ด้วย ชาวทิมบุคตู ถึงกับช็อก ตอนนี้กลุ่มติดอาวุธกำลังเข้าไปยึดครองบริเวณสุสานและจารึกโบราณอื่นๆ”
รัฐบาลชั่วคราวมาลี แถลงประณามผ่านสื่อโทรทัศน์ โดยระบุว่า การกระทำของกลุ่มติดอาวุธนั้น “เลวร้ายสุดจะบรรยาย”
นอกจากมัสยิดโบราณแล้ว พื้นที่ของเมืองทิมบุคตู ที่ถูกประกาศเป็นมรดกโลก ยังประกอบด้วย หลุมฝังศพและอนุสาวรีย์บรรจุศพอีก 16 แห่ง ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ยูเนสโก
เมืองโบราณแห่งนี้ยังได้ชื่อว่าเมืองแห่งนักบุญ 333 องค์ และมีจารึกโบราณอีกร่วม 100,000 ฉบับถูกเก็บรักษาไว้ตามบ้านเรือนประชาชน และห้องสมุดเอกชน ซึ่งบางฉบับมีอายุเก่าแก่ถึงศตวรรษที่ 12
