เอเอฟพี - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ เดินทางเยือนอัฟกานิสถานโดยไม่เผยกำหนดการล่วงหน้า เมื่อกลางดึกวานนี้ (1) เพื่อลงนามในข้อตกลงความร่วมมือกับรัฐบาลคาบูลหลังปี 2014 ซึ่งจะช่วยรับรอง “สันติภาพในอนาคต” หลังจากสงครามสิ้นสุดลงแล้ว
โอบามา เดินทางถึงกรุงคาบูลราว 22.23 น.วานนี้ (1) ก่อนจะถึงวันครบรอบ 1 ปีที่ อุซามะห์ บิน ลาดิน อดีตผู้นำอัลกออิดะห์ ผู้อยู่เบื้องหลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน ปี 2001 ถูกหน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯ ปลิดชีพ
ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามในข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (เอสพีเอ) กับประธานาธิบดี ฮาร์มิด คาร์ไซ และกล่าวต่อทหารอเมริกันซึ่งปฏิบัติภารกิจที่นั่นว่า การเสียสละของพวกเขาทำให้ผู้คนได้เห็น “แสงสว่างที่ริมขอบฟ้า” และจะกล่าวถ้อยแถลงครั้งสำคัญเกี่ยวกับความคืบหน้าของสงครามอัฟกานิสถานด้วย
“ทั้งชาวอเมริกันและชาวอัฟกันไม่ได้อยากให้สงครามเกิดขึ้น แต่เราก็ยืนหยัดเคียงข้างกันมาตลอด 10 ปี” โอบามา แถลงเช้าวันนี้ (2) พร้อมลงนามในเอกสารความยาว 10 หน้า เพื่อยืนยันว่าวอชิงตันจะยังมอบความช่วยเหลือแก่อัฟกานิสถานต่อไป หลังจากนาโตถอนกำลังในปี 2014
ข้อตกลงฉบับนี้ยังเปิดทางให้สหรัฐฯ สามารถคงทหารอเมริกันบางส่วนไว้ เพื่อฝึกฝนกองทัพอัฟกัน และจัดการกับแนวร่วมอัลกออิดะห์ที่ยังหลงเหลืออยู่ ทว่าสัญญาไม่ได้กำหนดจำนวนทหารอเมริกันที่ต้องประจำอยู่ในอัฟกานิสถาน รวมถึงวงเงินช่วยเหลือที่วอชิงตันต้องมอบแก่คาบูล
สาระสำคัญของข้อตกลงความร่วมมือประกอบด้วย :
- การป้องกันและสนับสนุนค่านิยมประชาธิปไตยซึ่งมีอยู่ร่วมกัน โดยอัฟกานิสถานยืนยันจะจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ตลอดจนการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมและโปร่งใส
- การสร้างความมั่นคงที่ก้าวหน้าในระยะยาว โดยสหรัฐฯจะประกาศให้อัฟกานิสถานเป็น “พันธมิตรหลักที่มิใช่สมาชิกนาโต” และหลังปี 2014 เป็นต้นไป วอชิงตันจะจัดหาทุนเป็นรายปี เพื่อช่วยฝึกฝนและพัฒนากองกำลังความมั่นคงอัฟกัน นอกจากนี้ สหรัฐฯ จะไม่ใช้ดินแดนอัฟกานิสถานเป็นสถานที่โจมตีประเทศอื่นๆด้วย
- การเสริมสร้างความมั่นคงและความร่วมมือในระดับภูมิภาค เกี่ยวกับการปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย, แก๊งอาชญากร, ผู้ค้ายาเสพติด และการฟอกเงิน
- การพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ โดยสหรัฐฯจะสนับสนุนกิจกรรมของภาคเอกชนในอัฟกานิสถาน ขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมมือกันปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น
- การเสริมสร้างความมั่นคงให้แก่ผู้ปกครอง และสถาบันต่างๆ ของอัฟกานิสถาน
หลังเสร็จสิ้นพิธีลงนาม โอบามา ซึ่งมีสถานะเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพสหรัฐฯ ได้เดินทางไปยังฐานทัพอากาศบาแกรม เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจทหารอเมริกัน
“หนทางข้างหน้ายังยากลำบาก เพราะสงครามยังไม่สิ้นสุด เพื่อนคู่หูของคุณอาจต้องบาดเจ็บ บางคนอาจเสียชีวิต แต่อย่างน้อยเราได้เห็นแสงสว่างที่ริมขอบฟ้า เพราะการเสียสละของพวกคุณทุกคน” โอบามากล่าว
การเยือนอัฟกานิสถานครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ของโอบามา หลังเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เมื่อปี 2009 และแสดงให้เห็นถึงอำนาจเชิงสัญลักษณ์ของประธานาธิบดี ในช่วงเวลาที่โอบามาถูกคู่แข่งจากพรรครีพับลิกันอย่าง มิตต์ รอมนีย์ โจมตีว่า พยายามโหมกระแสครบรอบวันตายของ บิน ลาดิน เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง