เอเอฟพี - กลุ่มตอลิบานในอัฟกานิสถานเรียกร้องให้มุสลิมทั่วโลกช่วยบริจาคเงินสนับสนุนปฏิบัติการก่อการร้าย ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นกลยุทธ์สงครามสื่อที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก
คำประกาศดังกล่าวถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ของตอลิบาน พร้อมหมายเลขสายด่วนและอีเมลแอดเดรส เพื่อเป็นช่องทางให้ชาวมุสลิมช่วยสนับสนุนปฏิบัติการ “ญิฮาด” หรือการทำสงครามศักดิ์สิทธิ์กับผู้ไม่ศรัทธาที่มา “บุกรุก”
ตอลิบานเคยครองอำนาจในอัฟกานิสถานระหว่างปี 1996-2001 ก่อนที่สหรัฐฯ จะนำกำลังบุกโค่นล้ม เนื่องจากพวกเขาไม่ยอมมอบตัว อุซามะห์ บิน ลาดิน ซึ่งวอชิงตันเชื่อว่าเป็นผู้บงการเหตุวินาศกรรมเมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001
นับแต่นั้นมา เครือข่ายตอลิบานที่ยังเหลืออยู่ก็ใช้วิธีก่อความไม่สงบและสังหารประชาชนเพื่อบั่นทอนฐานอำนาจของรัฐบาลอัฟกานิสถานตลอดมา
“ตามกฎหมายชารีอะห์ มุสลิมทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ล้วนมีหน้าที่ญิฮาด ทั้งด้วยเงินทองและจิตวิญญาณ” ตอลิบาน ระบุ
ตอลิบานยังอ้างว่า พวกตน “กระทำญิฮาดโดยชอบธรรม โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้ที่มีใจรักอิสลามอย่างแท้จริง และกำลังต้องการความช่วยเหลือด้านการเงินจากพี่น้องมุสลิมทั่วโลก เพื่อสานต่อปฏิบัติการทั้งทางทหารและอื่นๆ”
อับดุล วาฮีด วาฟา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยอัฟกานิสถานประจำมหาวิทยาลัยคาบูล ระบุว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ “สงครามสื่อ” เพื่อแสดงให้เห็นว่า การกระทำของพวกเขาได้รับความเห็นชอบจากคนจำนวนมาก
“ผมมองว่า มันเป็นสงครามโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มตอลิบาน... พวกเขาจะแสดงให้เห็นว่า การทำญิฮาดของพวกเขามีประชาชนคอยสนับสนุน และเงินทุนของพวกเขาก็มาจากประชาชนเช่นกัน” วาฟา กล่าว
ข้อมูลข่าวกรองจากทางการอัฟกานิสถานและตะวันตก ระบุว่า เงินทุนส่วนใหญ่ของตอลิบานมาจากการปลูกและจำหน่ายฝิ่น ซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยอัฟกานิสถานถือเป็นแหล่งปลูกฝิ่นกว่าร้อยละ 90 ที่จำหน่ายในตลาดโลก
รัฐบาลคาบูลยังกล่าวหาหน่วยข่าวกรองปากีสถานและกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ว่ามีส่วนให้เงินสนับสนุนกลุ่มตอลิ-บาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการระเบิดฆ่าตัวตายและการโจมตีรูปแบบอื่นๆ
คำประกาศดังกล่าวถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ของตอลิบาน พร้อมหมายเลขสายด่วนและอีเมลแอดเดรส เพื่อเป็นช่องทางให้ชาวมุสลิมช่วยสนับสนุนปฏิบัติการ “ญิฮาด” หรือการทำสงครามศักดิ์สิทธิ์กับผู้ไม่ศรัทธาที่มา “บุกรุก”
ตอลิบานเคยครองอำนาจในอัฟกานิสถานระหว่างปี 1996-2001 ก่อนที่สหรัฐฯ จะนำกำลังบุกโค่นล้ม เนื่องจากพวกเขาไม่ยอมมอบตัว อุซามะห์ บิน ลาดิน ซึ่งวอชิงตันเชื่อว่าเป็นผู้บงการเหตุวินาศกรรมเมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001
นับแต่นั้นมา เครือข่ายตอลิบานที่ยังเหลืออยู่ก็ใช้วิธีก่อความไม่สงบและสังหารประชาชนเพื่อบั่นทอนฐานอำนาจของรัฐบาลอัฟกานิสถานตลอดมา
“ตามกฎหมายชารีอะห์ มุสลิมทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ล้วนมีหน้าที่ญิฮาด ทั้งด้วยเงินทองและจิตวิญญาณ” ตอลิบาน ระบุ
ตอลิบานยังอ้างว่า พวกตน “กระทำญิฮาดโดยชอบธรรม โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้ที่มีใจรักอิสลามอย่างแท้จริง และกำลังต้องการความช่วยเหลือด้านการเงินจากพี่น้องมุสลิมทั่วโลก เพื่อสานต่อปฏิบัติการทั้งทางทหารและอื่นๆ”
อับดุล วาฮีด วาฟา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยอัฟกานิสถานประจำมหาวิทยาลัยคาบูล ระบุว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ “สงครามสื่อ” เพื่อแสดงให้เห็นว่า การกระทำของพวกเขาได้รับความเห็นชอบจากคนจำนวนมาก
“ผมมองว่า มันเป็นสงครามโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มตอลิบาน... พวกเขาจะแสดงให้เห็นว่า การทำญิฮาดของพวกเขามีประชาชนคอยสนับสนุน และเงินทุนของพวกเขาก็มาจากประชาชนเช่นกัน” วาฟา กล่าว
ข้อมูลข่าวกรองจากทางการอัฟกานิสถานและตะวันตก ระบุว่า เงินทุนส่วนใหญ่ของตอลิบานมาจากการปลูกและจำหน่ายฝิ่น ซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยอัฟกานิสถานถือเป็นแหล่งปลูกฝิ่นกว่าร้อยละ 90 ที่จำหน่ายในตลาดโลก
รัฐบาลคาบูลยังกล่าวหาหน่วยข่าวกรองปากีสถานและกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ว่ามีส่วนให้เงินสนับสนุนกลุ่มตอลิ-บาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการระเบิดฆ่าตัวตายและการโจมตีรูปแบบอื่นๆ