เอเอฟพี - แม้การตายของ อุซามะห์ บิน ลาดิน อดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ จะผ่านพ้นไปแล้วเกือบ 1 ปี แต่กลับไม่มีใครทราบแน่ว่า รัฐบาลปากีสถานล่วงรู้ถึงการหลบซ่อนตัว บิน ลาดิน มากน้อยแค่ไหน ซึ่งสิ่งนี้เองที่ทำให้เกิดทฤษฎีไปต่างๆ นานาเกี่ยวกับ “ความจริง” ที่เกิดขึ้น
ไซน์ โมฮัมหมัด ชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่ในเขตบิลาล เมืองอับบอตตาบัด แดนตายของ บิน ลาดิน ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงอิสลามาบัดไปทางเหนือเพียง 80 กิโลเมตร ตกอยู่ในสถานะ “เพื่อนบ้านของ บิน ลาดิน” ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว หลังหน่วยรบพิเศษซีลส์ของสหรัฐฯบุกทลายแหล่งกบดานของผู้นำอัลกออิดะห์ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของเขาไปไม่กี่เมตร
เขาบอกว่า ไม่ได้รู้สึกอับอายกับฐานะที่ว่านี้ แต่เกรงคนจะเข้าใจผิด เพราะเขาก็เป็นหนึ่งในพลเมืองท้องถิ่นที่ไม่เชื่อว่า บิน ลาดิน เคยอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนั้น
“ผมไม่เชื่อว่า บิน ลาดิน เคยอยู่ที่นี่ จะมีก็แต่คนบริสุทธิ์ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอัลกออิดะห์ พวกเขาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนั้น และต้องมาเสียชีวิตไป” เขากล่าว
ออรังเซบ ครูใหญ่ประจำโรงเรียนในท้องถิ่น ก็มั่นใจอย่างนั้นเช่นกัน
“บิน ลาดิน ไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก ครอบครัวของเขาอาจจะอยู่จริง แต่ตัวเขาไม่อยู่แน่นอน มันเป็นแค่ละครฉากหนึ่งที่อเมริการ่วมมือกับกองทัพปากีสถาน คนพวกนี้ทำอะไรก็ได้เพื่อเงิน พวกขอทานทั้งนั้น”
ทฤษฎีที่ว่า บิน ลาดิน ไม่ได้อาศัยอยู่ในเมืองอับบอตตาบัดกำลังแพร่หลายในกลุ่มชาวบ้าน ขณะที่นักหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นคนหนึ่งชี้ว่า ชาวบ้านแค่ไม่อยากยอมรับว่า คนที่ก่ออาชญากรรมเลวร้ายขนาดนี้จะเคยอาศัยอยู่ในชุมชนเดียวกับพวกเขา
“ความจริงก็คือ พวกเขารู้สึกอับอายที่ บิน ลาดิน มาซ่อนตัวที่นี่ ในขณะที่เครือข่ายของเขาใช้ระเบิดฆ่าตัวตายสังหารคนไปเป็นพันๆ คนในประเทศนี้”
แหล่งข่าวความมั่นคงรายหนึ่งระบุว่า ความอับอายและความหวาดกลัวเกิดขึ้นในหมู่ผู้นำระดับสูงของปากีสถานในเช้าวันที่ 2 พฤษภาคม ปี 2011ซึ่งเป็นการย้ำจุดยืนของหน่วยข่าวกรองปากีสถานที่ว่า พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่า บิน ลาดิน ใช้ปากีสถานเป็นที่หลบซ่อน
“เหนือสิ่งอื่นใดก็คือความกลัว เมื่อพวกเขาตระหนักว่า ตนเองยังไม่สามารถควบคุมกรมกองต่างๆ ได้ทั้งหมด และยังไม่รู้ด้วยว่า หน่วยไหนหันไปร่วมมือกับกลุ่มติดอาวุธ และช่วยให้ บิน ลาดิน เข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่”
หลังข่าวการสังหาร บิน ลาดิน ถูกเผยแพร่ออกไป กองทัพปากีสถานปิดล้อมบ้านพักในเมืองอับบอตตาบัดอยู่นานหลายเดือน ก่อนจะสั่งรื้อทิ้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่สหรัฐฯ ก็ไม่ยอมเผยรูปถ่ายศพ บิน ลาดิน แม้แต่รูปเดียว
สถานการณ์ความอึมครึมทำให้เกิดข่าวลือว่า บิน ลาดิน อาจถูกพาตัวจากอัฟกานิสถานมาฆ่าทิ้งที่เมืองอับบอตตาบัดเพื่อป้ายสีรัฐบาลปากีสถาน ขณะที่บางคนเชื่อว่าผู้นำอัลกออิดะห์ยังมีชีวิตอยู่
ชะตากรรมของภรรยาหม้ายและบุตรธิดาของ บิน ลาดิน ซึ่งถูกรัฐบาลปากีสถานกักตัวไว้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ก็ยังเป็นปริศนาที่คนสนใจใคร่รู้ ทั้งหมดถูกเนรเทศไปยังซาอุอีดาระเบียเมื่อวันศุกร์ (27) ที่ผ่านมา โดยที่ไม่เคยเผยโฉมหน้าต่อสาธารณะชนเลยแม้แต่ครั้งเดียว
เดือนที่แล้ว นายพลปากีสถานวัยเกษียณผู้หนึ่งอ้างว่า ภรรยาคนหนึ่งของอดีตผู้นำอัลกออิดะห์ยอมเผยที่อยู่ของสามีให้สหรัฐฯ ทราบ เนื่องจากไม่พอใจที่ บิน ลาดิน รักใคร่ภรรยาวัยสาวมากกว่านาง
ก่อนถึงวันเนรเทศประมาณ 1 สัปดาห์ ตำรวจซึ่งคุ้มกันบ้านพักของครอบครัว บิน ลาดิน ให้สัมภาษณ์ว่า ภรรยาหม้ายคนหนึ่งเพิ่งให้กำเนิดทารกน้อย หลังจาก บิน ลาดิน เสียชีวิตไปแล้วถึง 11เดือน
ในประเทศซึ่งเชี่ยวชาญการสร้างเรื่องปริศนาทั้งทางการเมืองและการทหาร เรื่องราวโดยละเอียดเกี่ยวกับชีวิตของ บิน ลาดิน ระหว่างหลบหนีเข้ามาอยู่ในปากีสถาน คงยากจะได้รับการเปิดเผย
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงคนหนึ่งอธิบายว่า ทฤษฎีแปลกๆเหล่านี้นับว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับหน่วยข่าวกรอง
“กองทัพยินดีปล่อยให้ทฤษฎีสมคบคิดเหล่านี้แพร่หลายในกลุ่มพลเมืองส่วนใหญ่ซึ่งยังไร้การศึกษา ดีกว่าจะทำให้ทุกอย่างโปร่งใส อันจะนำมาซึ่งความอับอายมากยิ่งขึ้น และเมื่อนั้นประชาชนก็อาจสูญเสียความเชื่อมั่นในศักยภาพของหน่วยข่าวกรองที่จะปกป้องพวกเขาจากอันตรายได้”