สหรัฐฯ-ฟิลิปปินส์ซ้อมรบแข็งขัน กระทบชิ่งจีน “จำลองเหตุชิงเกาะ”

เอเจนซี - หน่วยคอมมานโดอเมริกัน-ฟิลิปปินส์ลุยขึ้นฝั่งเพื่อชิงเกาะคืน ในสถานการณ์จำลองการซ้อมรบที่คลับคล้ายประเด็นข้อพิพาทเหนือน่านน้ำที่อุดมด้วยทรัพยากรกับจีน ที่ออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่า การซ้อมรบนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเผชิญหน้า และล่าสุดย้ำอีกคำรบว่า จีนยึดมั่นในการแก้ไขข้อพิพาทด้วยการเจรจาและการทูต

ทหารอเมริกันและฟิลิปปินส์เกือบ 7,000 คนกำลังร่วมซ้อมรบนาน 2 สัปดาห์ โดยเมื่อวันพุธ (25) คอมมานโดของทั้งสองฝ่ายราว 100 นายจำลองสถานการณ์การบุกยึดเกาะคืนจากกลุ่มหัวรุนแรง และช่วยเหลือตัวประกัน

ย้อนกลับไปเมื่อ 4 วันก่อน หน่วยคอมมานโดก็ได้โรยตัวจากเฮลิคอปเตอร์ลงสู่เรือยาง ในสถานการณ์จำลองการเข้ายึดแท่นขุดเจาะน้ำมันคืน

ปฏิบัติการดังกล่าวเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบประจำปีระหว่างสหรัฐฯ กับฟิลิปปินส์ ซึ่งปีนี้จัดขึ้นบนเกาะปาราวัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของแดนตากาล็อก ภายใต้สนธิสัญญาการป้องกันร่วมกันปี 1951 อันเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายพันธมิตรความมั่นคงของสหรัฐฯ ในเอเชีย-แปซิฟิกที่เริ่มต้นขึ้นในยุคสงครามเย็น

กระนั้น เป็นที่น่าสังเกตว่า การซ้อมรบครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่มีการเผชิญหน้าระหว่างเรือจีนกับฟิลิปปินส์ใกล้สันดอนสการ์โบโร โชล ในทะเลจีนใต้เมื่อไม่นานมานี้

จีนนั้นมีข้อพิพาทด้านดินแดนในทะเลจีนใต้กับฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย และไต้หวัน โดยที่ต่างฝ่ายต่างตั้งหน้าค้นหาก๊าซและน้ำมัน และสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางทหารและนาวี

ปักกิ่งเตือนตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วว่า การซ้อมรบนี้จะเพิ่มความเสี่ยงในการเผชิญหน้า ต่อมาวานนี้ (25) ชุย เทียนข่าย รองรัฐมนตรีต่างประเทศ ย้ำว่า จีนยึดมั่นในการแก้ไขข้อพิพาทด้วยการเจรจาและการทูต

“เรากังวลมากกับประเด็นทะเลจีนใต้ บางคนพยายามโยงอธิปไตยเหนือดินแดนกับเสรีภาพในการเดินเรือซึ่งไม่เกี่ยวข้องกันมาปะปนกัน”

ความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่จะมีการเจรจาระดับสูงระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

ทั้งนี้ จีน ซึ่งอ้างสิทธิในทะเลจีนใต้แทบทั้งหมดโดยอิงกับบันทึกทางประวัติศาสตร์ ต้องการให้ผู้เกี่ยวข้องเท่านั้นมาร่วมกันแก้ไขข้อพิพาทแบบทวิภาคี ทว่า เหล่าเพื่อนบ้านต่างกังวลกับการที่พญามังกรลุกขึ้นมาอ้างสิทธิในบริเวณดังกล่าวก้าวร้าวขึ้น

ทางด้าน ไบรอัน มิตเชล โฆษกหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯ ยืนยันว่า ตำแหน่งการซ้อมรบคราวนี้กำหนดไว้นานหลายเดือนแล้ว และเป็นการซ้อมรบตามปกติ

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีบารัค โอบามา พยายามให้ความมั่นใจพันธมิตรในเอเชียว่า วอชิงตันจะทำหน้าที่ถ่วงดุลจีนในทะเลจีนใต้ อันเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญที่กำหนดเอเชียเป็นแกนกลางนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ หลังสิ้นสุดสงครามอิรักและอัฟกานิสถาน

ส่วน พล.ท.ฆวนโช ซับบัน ผู้บัญชาการทหารภาคตะวันตกของฟิลิปปินส์ ออกมาลดกระแสอีกทางโดยกล่าวว่า การซ้อมรบเป็นการทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงทักษะของทหารทั้งสองชาติ

พื้นที่บัญชาการของซับบัน ครอบคลุมรีดแบงก์และหมู่เกาะสแปรตลีย์ ที่ทั้งจีน ไต้หวัน และเวียดนาม ต่างอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะทั้งหมด ขณะที่มาเลเซีย บรูไน และฟิลิปปินส์อ้างกรรมสิทธิ์ในพื้นที่บางส่วน

สำนักงานข้อมูลพลังงานของสหรัฐฯ รายงานไว้ในปี 2008 ว่า ทะเลจีนใต้มีน้ำมันสำรองที่ได้รับการพิสูจน์แล้วและยังขุดค้นไม่พบถึง 213,000 ล้านบาร์เรล มากกว่าทุกประเทศยกเว้นซาอุดีอาระเบียและเวเนซุเอลา

วันอังคารที่ผ่านมา ฟิเล็กซ์ ปิโตรเลียม บริษัทสำรวจแหล่งพลังงานของฟิลิปปินส์ เผยว่าค้นพบก๊าซธรรมชาติมากกว่าที่คาดไว้รอบบริเวณรีดแบงก์ ที่เรือของกองทัพจีนพยายามคุกคามเรือสำรวจลำหนึ่งของฟอรัม อิเนอร์จี บริษัทในเครือฟิเล็กซ์เมื่อปีที่แล้ว โดยฟิลิปปินส์มีกำหนดเปิดการสำรวจก๊าซและน้ำมันในบริเวณดังกล่าววันศุกร์นี้ (27)