xs
xsm
sm
md
lg

ซีอีโอแควนตัสจี้เปิด “สนามบินซิดนีย์” แห่งที่ 2 ลดปัญหาความแออัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนามบินนานาชาติ คิงส์ฟอร์ด สมิธ นครซิดนีย์
เอเอฟพี - อลัน จอยซ์ ผู้บริหารสายการบินแควนตัสของออสเตรเลีย ชี้ถึงความแออัดยัดเยียดภายในสนามบินซิดนีย์ พร้อมเรียกร้องให้มีการเปิดสนามบินแห่งที่ 2 ก่อนที่ปัญหาดังกล่าวจะกระทบต่อชื่อเสียงของออสเตรเลีย วันนี้ (23)

สนามบินคิงส์ฟอร์ด สมิธ ถือเป็นประตูหลักสู่ออสเตรเลีย ซึ่งจอยซ์ยืนยันว่า จำเป็นต้องขยายขีดความสามารถของสนามบินในการรองรับเครื่องบินและผู้โดยสารให้มากขึ้น

“เรื่องสร้างสนามบินอีกแห่งในซิดนีย์จะมัวรอเวลาตัดสินใจต่อไปไม่ได้แล้ว... อุตสาหกรรมการบินเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่เฉพาะต่อซิดนีย์และรัฐนิวเซาท์เวลส์ แต่สำหรับออสเตรเลียทั้งประเทศ นี่คือปัญหาของชาติที่จะไม่หายไปเอง มันต้องได้รับการแก้ไข” จอยซ์ชี้

ซิดนีย์เป็นฐานการบินของแควนตัส ซึ่งกำลังเผชิญปัญหาขั้นรุนแรง โดยจอยซ์ระบุว่า การลากเครื่องบินโบอิ้ง 747 จากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านของสนามบินต้องใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง

จอยซ์เผยด้วยว่า การจราจรที่คับคั่งทำให้เที่ยวบินส่วนใหญ่มักเสียเวลาบินวนถึง 30 นาที ขณะที่อีกหลายลำไม่สามารถออกตามเวลาได้

รัฐบาลออสเตรเลียเห็นด้วยกับโครงการสนามบินซิดนีย์แห่งที่ 2 โดยรัฐมนตรีฝ่ายโครงสร้างพื้นฐาน แอนโทนี อัลเบนีส เพิ่งกล่าวไม่นานนี้ว่า ข้อจำกัดของสนามบินหลักมีส่วนบั่นทอนเศรษฐกิจของแดนจิงโจ้

อัลเบนีสระบุว่า หากสายการบินต่างๆหันไปใช้สนามบินอื่น จะทำให้มูลค่าจีดีพีสูญหายไปถึง 6,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ภายในปี 2035 และความเสียหายจะเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 6 เท่าตัว ภายในปี 2060

อย่างไรก็ตาม บาร์รี โอฟาร์เรล ผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์ ไม่เห็นด้วยกับแผนดังกล่าว โดยชี้ว่า ซิดนีย์มีความเป็นเมืองสูงเกินกว่าจะรองรับสนามบินได้อีกแห่ง พร้อมแนะให้ไปสร้างสนามบินใหม่ขึ้นที่กรุงแคนเบอร์ราซึ่งห่างออกไป 280 กิโลเมตรแทน แล้วจัดระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมมายังซิดนีย์

จอยซ์ชี้ว่า แนวคิดของโอฟาร์เรล ไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง

“ผมเป็นคนไอร์แลนด์ ซึ่งสายการบิน ไรอัน แอร์ ก็สมัครใจที่จะใช้สนามบินรองซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองออกมา... แต่ผมว่า พวกเขาคงไม่เอาด้วยแน่กับสนามบินที่ห่างออกไปถึง 280 กิโลเมตร”

จอยซ์ เสนอให้สร้างสนามบินแห่งที่ 2 ขึ้นในย่านแบดเจอรีส์ ครีก ทางตะวันตกของนครซิดนีย์

“หากเมืองใหญ่ที่สุดของเราไม่สามารถรองรับคนเดินทางที่คาดว่าจะหลั่งไหลมาที่นี่เพิ่มขึ้นภายในปี 2030 ได้ ทั้งซิดนีย์และส่วนอื่นๆ ของออสเตรเลีย จะสูญเสียนักท่องเที่ยวและโอกาสทางธุรกิจไปอย่างแน่นอน”
กำลังโหลดความคิดเห็น