เอเอฟพี/เอเจนซี - ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความหวังว่าผู้นำอายุน้อย คิม จอง อึน แห่งเกาหลีเหนืออาจเปลี่ยนไปใช้นโยบายรอมชอมมากขึ้น วานนี้ (18) แม้เปียงยางจะเพิ่งยิงจรวดส่งดาวเทียมโดยไม่สนเสียงประณามจากนานาชาติ และมีแนวโน้มว่าจะทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 เร็วๆนี้ก็ตาม
ระหว่างให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ The Situation Room ทางสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น คลินตันชี้ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปนัยยะของสุนทรพจน์ที่บุตรชายคนเล็กของผู้นำคิม จอง อิล กล่าวต่อกองทัพเกาหลีเหนือ เมื่อวันอาทิตย์ (15) ที่ผ่านมา
แม้จะไม่เผยรายละเอียดใดๆเพิ่มเติม แต่คลินตันระบุว่า สุนทรพจน์ของจอง อึน เป็นทั้ง “คำพูดแบบเดิมๆ” และ “แนวทางใหม่ที่อาจเป็นไปได้” ในตัวของมันเอง
“เรากำลังเฝ้ารอและมองดูว่าเขาจะเป็นผู้นำแบบที่ชาวเกาหลีเหนือต้องการได้หรือไม่... หากเขาเพียงเดินตามรอยพ่อ เราก็ไม่คาดหมายอะไรมากไปกว่าพฤติกรรมยั่วยุ และความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงของกลุ่มผู้มีอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองในการดูแลประชาชนของพวกเขาเอง” คลินตันกล่าว
“เท่าที่ได้ทราบมา เขาเคยใช้ชีวิตนอกเกาหลีเหนือมาก่อน เราจึงเชื่อว่าเขาอาจมีหวังอยู่บ้างว่าเกาหลีเหนือจะเปลี่ยนแปลงไปได้ แต่แน่นอนว่าต้องรอดูกันต่อ”
คลินตันยังฝากคำแนะนำไปยังผู้นำเกาหลีเหนือให้เร่งปฏิรูปประเทศ โดยชี้ว่า จอง อึน มีโอกาสทำให้เกาหลีเหนือหลุดพ้นจากสภาวะโดดเดี่ยวที่ดำเนินมานานหลายสิบปีได้
“ในฐานะคนหนุ่มที่มีอนาคต ขอให้คุณเป็นผู้ที่นำเกาหลีเหนือเข้าสู่ศตวรรษที่ 21... จงให้การศึกษาแก่พวกเขา เปิดโอกาสให้ชาวเกาหลีเหนือได้แสดงออกซึ่งพรสวรรค์ของพวกเขา และแก้ไขความล้มเหลวทางเศรษฐกิจที่ทำให้พลเมืองของคุณตกอยู่ในสภาพอดอยากแร้นแค้นเช่นทุกวันนี้”
“จงเป็นผู้นำแห่งสหัสวรรษที่จะได้รับการจดจำในฐานะผู้ปฏิรูปและเปลี่ยนแปลงเกาหลีเหนือ และคุณมีโอกาสที่จะทำเช่นนั้นได้”
เชื่อกันว่า คิม จอง อึน เคยเดินทางไปศึกษาที่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งทำให้เขารู้ทั้งภาษาเยอรมันและอังกฤษ และพอมีความเข้าใจโลกตะวันตกอยู่บ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่ไม่มี
รัฐบาลเกาหลีเหนือออกมาประกาศวานนี้ (18) ว่าจะแก้แค้นให้สาสม หลังถูกนานาประเทศรุมประณามแผนส่งดาวเทียมที่ล้มเหลวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้โอกาสที่เกาหลีเหนือจะทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 มีความเป็นไปได้สูงขึ้น