เอเยนซี - รัฐบาลเกาหลีเหนือประกาศจะแก้แค้นให้ถึงที่สุด หลังถูกนานาชาติรุมประณามแผนยิงจรวดส่งดาวเทียมที่ล้มเหลวไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(13) ทำให้โอกาสที่เปียงยางจะทดลองอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 มีความเป็นไปได้สูงขึ้น
เกาหลีเหนือยังประกาศยกเลิกข้อตกลงรับผู้สังเกตการณ์จากทบวงการปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) หลังสหรัฐฯ ยุติสัญญามอบความช่วยเหลือด้านอาหารแก่โสมแดง เพื่อตอบโต้การส่งจรวดพิสัยไกล
เปียงยางระบุว่า ที่สหรัฐฯ ทำเช่นนี้เท่ากับมีเจตนาร้าย ดังนั้นเกาหลีเหนือก็จะไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงระงับโครงการนิวเคลียร์ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์เช่นกัน ความหวังของหลายฝ่ายที่ว่าผู้นำอายุน้อยอย่าง คิม จอง อึน จะหันมาใช้นโยบายต่างประเทศแบบผ่อนปรนแทนการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ จึงพลอยริบหรี่ลงไปด้วย
“ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีสิทธิ์ออกมาตรการแก้แค้น และไม่ถูกผูกมัดด้วยสัญญาใดๆ อีกต่อไป” สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ของเกาหลีเหนือรายงาน วันนี้ (18) โดยไม่ระบุชัดว่ามาตรการที่ว่านั้นคืออะไร
นักวิเคราะห์คาดว่า การทดสอบอาวุธครั้งที่ 3 นี้จะเป็นครั้งแรกที่เกาหลีเหนือหันมาใช้อาวุธซึ่งผลิตจากยูเรเนียมสมรรถนะสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ต่างชาติสงสัยมานานว่าเปียงยางกำลังลักลอบพัฒนา แต่เพิ่งมีการยอมรับเมื่อราว 2 ปีมานี้
“หากเกาหลีเหนือทดสอบอาวุธจริง ก็จะเป็นอาวุธที่ผลิตจากยูเรเนียม ไม่ใช่พลูโตเนียมเหมือนครั้งก่อนๆ เพราะพวกเขามุ่งหมายให้การทดสอบอาวุธครั้งนี้เป็นสื่อโฆษณาศักยภาพด้านนิวเคลียร์ที่ใหม่และยิ่งใหญ่กว่าเดิม” แบก ซึง-จู จากสถาบันเพื่อการวิจัยด้านกลาโหมแห่งเกาหลี (KIDA) ระบุ
ผู้เชี่ยวชาญด้านกลาโหมชี้ว่า ความสำเร็จในการผลิตยูเรเนียมสมรรถนะสูงเพื่อทำระเบิดปรมาณูเหมือนเช่นที่เคยทำลายเมืองฮิโรชิมาเมื่อ 70 ปีก่อน จะช่วยให้เกาหลีเหนือมีศักยภาพพอจะสร้างคลังเชื้อเพลิงนิวเคลียร์เกรดอาวุธ และผลิตหัวรบนิวเคลียร์สำหรับติดตั้งบนจรวดพิสัยไกลได้อย่างง่ายดาย
แม้แผนทดสอบอาวุธนิวเคลียร์จะสร้างความหวาดผวาแก่ประเทศเพื่อนบ้านรวมถึงจีน แต่ก็เป็นการแสดงศักยภาพด้านเทคโนโลยีที่จะสร้างความประทับใจแก่กองทัพโสมแดงเอง ตลอดจนประเทศที่ซื้ออาวุธจากเกาหลีเหนือ