เอเจนซีส์ - เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ 3 ครั้งในเม็กซิโก ภายในเวลาห่างกันไม่ถึง 10 ชั่วโมง โดยครั้งแรกซึ่งมีความรุนแรงขนาด 6.5 เขย่ารัฐทางภาคตะวันตก และทำให้อาคารในเมืองหลวงเม็กซิโกซิตี สั่นไหว จากนั้นครั้งที่สอง และครั้งที่สาม ก็เกิดขึ้นห่างกันไม่ถึง 10 นาที ที่บริเวณชายฝั่งทะเลทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศด้วยความรุนแรง 6.2 และ 6.9 ตามลำดับ แต่รายงานเบื้องต้นระบุว่ายังไม่พบผู้บาดเจ็บล้มตายหรือเกิดความเสียหายรุนแรงใดๆ
ตามรายงานของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) ธรณีพิโรธครั้งแรกเกิดขึ้นในพื้นที่ภูเขาประชากรเบาบางของรัฐมิโชอากัง ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันตกของประเทศ เมื่อเวลาประมาณ 17.55 น.วันพุธ (11) ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 22.55 น.เวลามาตรฐานกรีนิช หรือ 05.55 น.วันพฤหัสบดีที่ 12 เวลาเมืองไทย) โดยความรุนแรงอยู่ในระดับ 6.5 และศูนย์กลางอยู่ในระดับลึกจากพื้นดินราว 20 กิโลเมตร
ต่อมาก็เกิดแผ่นดินไหวครั้งที่สอง ใต้ทะเลบริเวณอ่าวแคลิฟอร์เนีย ระหว่างคาบสมุทรบาฮา กับรัฐโซโนรา โดยอยู่ห่างจากเมืองเกร์เรโร เนโกร ของรัฐบาฮากาลิฟอร์เนีย ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 142 กิโลเมตร ในตอนกลางดึกในเวลา 00.06 น.ย่างเข้าวันพฤหัสบดี(12) ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 07.06 น.เวลามาตรฐานกรีนิช หรือ 14.06 น.เวลาเมืองไทย ทั้งนี้ ประเทศเม็กซิโกมีเขตเวลา 3 เขต เวลาท้องถิ่นต่างเขตกันจึงไม่ตรงกัน) วัดความรุนแรงได้ 6.2
แล้วอีกราว 9 นาทีต่อมา ได้เกิดธรณีพิโรธขนาดใหญ่กว่า คือ มีความรุนแรงระดับ 6.9 ในบริเวณห่างออกไปไมกี่กิโลเมตร นั่นคือ อยู่ห่างจากเมืองเกร์เรโร เนโกร ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 133 กิโลเมตร และห่างจากเมืองเอร์โยซีโย เมืองหลวงของรัฐโซโนรา ไปทางตะวันตกราว 213 กิโลเมตร โดยที่ USGSระบุว่า ศูนย์กลางอยู่ในระดับความลึก 10.3 กิโลเมตร
นอกจากนั้น สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐฯ ยังบันทึกการเกิดแผ่นดินไหวขนาดย่อมๆ ลงมาในบริเวณนี้ได้อีก 2 ครั้งด้วย
แรนดี บอลด์วิน นักธรณีฟิสิกส์ของ USGS ยืนยันกับสำนักข่าวเอเอฟพี ว่า มีแผ่นดินไหวใหญ่เกิดขึ้นต่างหากจากนั้น 2 ครั้งภายในเวลาไม่ถึง 10 นาทีจริงๆ และอธิบายว่าการเกิดธรณีพิโรธมากกว่า 1 ครั้งในอาณาบริเวณเดียวกัน ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด โดยเฉพาะในรัฐบาฮากาลิฟอร์เนีย
“บริเวณนี้เป็นพื้นที่ซึ่งมีแผ่นดินไหวบ่อยมากๆ” เขาให้สัมภาษณ์เอเอฟพีทางโทรศัพท์ จากศูนย์สารสนเทศแผ่นดินไหวแห่งชาติของ USGS ในโคโลราโด และบอกว่า แผ่นดินไหวใหญ่ 2 ครั้งนี้ เป็นที่รู้สึกกันของประชาชนจำนวนมากทั้งในเม็กซิโก และหลายๆ ส่วนของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย และ แอริโซนา ของสหรัฐฯ แต่ทางศูนย์ของเขาไม่ได้รับรายงานว่า เกิดความเสียหายใดๆ
ขณะที่สื่อในสหรัฐฯ รายงานว่า ชาวเมืองเอร์โมซีโย ในรัฐโซโนรา ของเม็กซิโก ต่างตกใจตื่นตอนกลางดึก เมื่อพบว่าเตียงนอนสั่นเอียง และพากันโทรศัพท์สอบถามสำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนของเมืองจนสายติดขัด แต่ ลุยซ์ เอนริเก กอร์โบดา ผู้อำนวยการสำนักงานบอกว่า ไม่พบว่าเกิดความเสียหายรุนแรงอะไรในพื้นที่แถบนี้
เช่นเดียวกับแผ่นดินไหวครั้งแรกในช่วงเย็นวันพุธ ซึ่งแม้ทำให้อาคารสูงในกรุงเม็กซิโกซิตี ที่อยู่ห่างออกไปราว 384 กิโลเมตร เกิดอาการสั่นไหว และประชาชนพากันวิ่งออกมาสู่ท้องถนนและพื้นที่กลางแจ้งด้วยความตื่นตระหนก แต่ มาร์เซลโล เอบราร์ด นายกเทศมนตรีเม็กซิโกซิตี เขียนลงในทวีตเตอร์ของเขาว่า ไม่มีสัญญาณเบื้องต้นใดๆ ว่าเกิดความเสียหายร้ายแรงอะไร บริการสำคัญๆ ของเมืองหลวง เป็นต้นว่า ระบบรถไฟใต้ดิน และท่าอากาศยานระหว่างประเทศ ยังคงเปิดให้บริการได้ตามปกติ
สำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนในรัฐมิโชอากัง ตลอดจนรัฐเกร์เรโร ซึ่งอยู่ติดกัน และเป็นบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวอยู่เป็นระลอกในระยะหลังๆ นี้ ต่างรายงานว่า ไม่มีผู้บาดเจ็บล้มตายหรือความเสียหายสำคัญใดๆ ในคราวนี้
ขณะที่ศูนย์เตือนภัยสึนามิมหาสมุทรแปซิฟิก ในเมืองโฮโนลูลู มลรัฐฮาวาย ของสหรัฐฯ แจ้งว่า ไม่ได้ออกประกาศเตือนภัยสึนามิ ถึงแม้ เดวิด วอลช์ เจ้าหน้าที่สมุทรศาสตร์ของศูนย์ชี้ว่า แผ่นดินไหวคราวนี้เกิดขึ้นใกล้ทะเล โดยที่มีความรุนแรงเพียงพอและลึกเพียงพอที่จะก่อให้เกิดสึนามิได้
เหตุธรณีพิโรธ 3 หนหลังสุดนี้ เกิดขึ้นตามหลังแผ่นดินไหว 2 ครั้ง ที่เขย่าประสาทประชาชนชาวเม็กซิโกภายในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะ แผ่นดินไหวความรุนแรง 7.4 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ซึ่งก่อความเสียหายแก่บ้านเรือนประชาชนหลายร้อยหลังคาเรือนในแถบตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ จากนั้นก็เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายสิบครั้ง
อนึ่ง ในเวลาไล่เลี่ยกันนี้ ยังได้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 5.9 เขย่านอกชายฝั่งมลรัฐออริกอน ของสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (11) จากนั้นอีก 1 นาทีต่อมา ก็เกิดธรณีพิโรธเล็กๆ นอกชายฝั่งตอนกลางของแคลิฟอร์เนีย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ และทางศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกบอกว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่น่าจะเกิดให้เกิดสึนามิ
เบื้องต้นสามารถวัดระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหวในออริกอนได้ที่ 6.2 แต่มีการปรับลดเหนือ 5.9 ในเวลาต่อมา ขณะที่แผ่นดินไหวที่แคลิฟอร์เนีย วัดความรุนแรงในเบื้องต้นได้ที่ 5.3 อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ