เอเจนซี/เอเอฟพี - เกิดแผ่นดินไหว 6.3 เขย่าพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเม็กซิโกเมื่อวันจันทร์ (2) แรงสะเทือนทำอาคารสูงในเมืองหลวงที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตรสั่นไหว จนประชาชนแตกตื่นหนีตายขึ้นไปอยู่บนท้องถนน แม้ว่ายังไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ ก็ตาม
สำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่า วัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวครั้งนี้ได้ที่ 6.3 ริกเตอร์ โดยมีศูนย์กลางลึกลงไปใต้ดินราว 10 กิโลเมตร ใกล้เมืองโอเมเทเปค ในรัฐเกร์เรโร ทางตะวันตกเฉียงใต้ ที่เพิ่งเผชิญแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.4 เมื่อเดือนก่อน
“แรงสั่นสะเทือนของมันรุนแรงมาก ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเรา แต่มันทำให้ผู้คนแตกตื่น เนื่องจากประชาชนยังคงหวาดหวั่นจากแผ่นดินไหวคราวก่อนที่หนักหนากว่านี้มาก” ชาวบ้านรายหนึ่งบอก
พลเมืองในกรุงเม็กซิโก ซิตี ก็สามารถสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนเช่นกัน และความรุนแรงของมันก่อความตื่นตระหนกแก่ผู้คนในหลายพื้นที่ของเมืองที่ต่างพากันวิ่งหนีออกจากบ้านและอาคารต่างๆ โดยเฉพาะบนถนนอเวนิดา เลอ เรฟอร์มา ย่านกลางกรุงซึ่งสองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารน้อยใหญ่ มีประชาชนหลายพันคนหนีตายลงมาอยู่บนถนน
อย่างไรก็ตาม มาร์เซโล เอบราร์ด นายกเทศมนตรีเขียนลงทวิตเตอร์ว่า เบื้องต้นยังไม่พบร่องรอยความเสียหายตามทางยกระดับของเมือง ระบบการสื่อสารก็ยังทำงานตามปกติ “เราเจอแผ่นดินไหวอีกครั้ง เรากำลังดำเนินการอพยพ กระนั้นก็ดีสถานีวิทยุแห่งหนึ่งรายงานว่าสนามบินต้องปิดบริการ ส่วนรถไฟฟ้าใต้ดินยังแล่นบริการประชาชนได้”
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ก็เพิ่งเกิดแผ่นดินไหว 7.4 ริกเตอร์ เขย่าภาคตะวันตกเฉียงใต้ของเม็กซิโก ก่อความตื่นตระหนกและบ้านเรือนกับสิ่งปลูกสร้างหลายร้อยหลังได้รับความเสียหายในรัฐเกร์เรโรและรัฐโออาซากาที่อยู่ติดกัน ส่งผลให้ผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 13 คน
แผ่นดินไหวดังกล่าวถือเป็นครั้งรุนแรงที่สุดที่เขย่าเมืองหลวงของเม็กซิโกนับจากปี 1985 ที่เกิดแผ่นดินไหวความแรง 8.1 ริกเตอร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6,000-30,000 คน
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ได้มีอาฟเตอร์ช็อกตามมามากกว่า 40 ครั้งและบางครั้งวัดความรุนแรงได้ถึง 5.0 ริกเตอร์