เอเจนซี - อัฟกานิสถานและสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงจำกัดการบุกค้นบ้านพลเรือนในยามวิกาล และให้สิทธิคาบูลในการคัดค้านปฏิบัติการดังกล่าวของสหรัฐฯ ได้ วานนี้ (8) ซึ่งข้อตกลงล่าสุดจะนำไปสู่มาตรการร่วมอื่นๆ ที่จะช่วยให้ทหารสหรัฐฯ สามารถปฏิบัติภารกิจในอัฟกานิสถานได้ต่อไป
การบุกค้นบ้านผู้ต้องสงสัยยามค่ำคืนเป็นชนวนเหตุที่ก่อให้เกิดกระแสต่อต้านตะวันตกในหมู่ชาวบ้านอัฟกัน ขณะที่ผู้บัญชาการทหารนาโตมองว่าเทคนิคดังกล่าวช่วยให้กองทัพสามารถกวาดล้างกลุ่มก่อความไม่สงบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อับดุล ราฮิม วาร์ดัก รัฐมนตรีกลาโหมอัฟกานิสถาน และ พล.ร.อ.จอห์น แอลเลน ผู้บัญชาการสูงสุดของนาโต ลงนามในข้อตกลงจำกัดการตรวจค้นยามวิกาล ซึ่งผ่านขั้นตอนการเจรจาอยู่นานหลายเดือน
“วันนี้แผนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ และอัฟกานิสถานได้คืบหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้เป็นวันที่เราเข้าใกล้จุดมุ่งหมายและวิสัยทัศน์ร่วมว่าด้วยความปลอดภัยและอธิปไตยของอัฟกานิสถาน” แอลเลนแถลง
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ทางการอัฟกานิสถานจะได้สิทธิควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ได้จากการตรวจค้น และมีอำนาจตัดสินใจว่าจะให้ทีมสอบสวนของสหรัฐฯ เข้าถึงพวกเขาได้หรือไม่
ปฏิบัติการตรวจค้นยังต้องได้รับหมายค้นจากผู้พิพากษาอัฟกันเสียก่อน ขณะที่อัฟกานิสถานเองก็จะต้องตั้งกระบวนการยุติธรรม “ที่สามารถออกหมายอนุญาตได้ตรงเวลา และทันต่อปฏิบัติการ”
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่ามาตรการจำกัดการตรวจค้นแบบสายฟ้าแลบจะกระทบต่อภารกิจของนาโต และทำให้ยุทธวิธีกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายที่ได้ผลที่สุด ด้อยประสิทธิภาพลง ซึ่งผู้บัญชาการนาโตเองก็คงกังวลเรื่องนี้อยู่เช่นกัน
ขณะที่ทหารอเมริกันจะยังปฏิบัติภารกิจตรวจค้นบ้านพลเรือนต่อไป อัฟกานิสถานก็จะส่งหน่วยคอมมานโดพิเศษเข้าไปมีส่วนสนับสนุนและให้คำปรึกษาด้วย
“นับจากนี้เป็นต้นไป การตรวจค้นในยามวิกาลจะกระทำโดยกองทัพอัฟกานิสถาน, ตำรวจ และหน่วยข่าวกรอง ซึ่งจะประสานงานใกล้ชิดกับหน่วยงานยุติธรรมของอัฟกานิสถาน” รัฐมนตรีกลาโหมอัฟกันแถลง
สหรัฐฯ จะจัดส่งอุปกรณ์ที่จำเป็น และให้คำปรึกษากับหน่วยรบพิเศษของอัฟกานิสถานด้วยเช่นกัน ข้อตกลงระบุ
พลเมืองอัฟกันต่างร้องเรียนว่า ปฏิบัติการตรวจค้นยามค่ำคืนเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของพวกเขา โดยเฉพาะสตรีที่อาศัยอยู่ในชุมชนหัวอนุรักษ์ ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มตอลิบาน
การบุกค้นบ้านผู้ต้องสงสัยยามค่ำคืนเป็นชนวนเหตุที่ก่อให้เกิดกระแสต่อต้านตะวันตกในหมู่ชาวบ้านอัฟกัน ขณะที่ผู้บัญชาการทหารนาโตมองว่าเทคนิคดังกล่าวช่วยให้กองทัพสามารถกวาดล้างกลุ่มก่อความไม่สงบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อับดุล ราฮิม วาร์ดัก รัฐมนตรีกลาโหมอัฟกานิสถาน และ พล.ร.อ.จอห์น แอลเลน ผู้บัญชาการสูงสุดของนาโต ลงนามในข้อตกลงจำกัดการตรวจค้นยามวิกาล ซึ่งผ่านขั้นตอนการเจรจาอยู่นานหลายเดือน
“วันนี้แผนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ และอัฟกานิสถานได้คืบหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้เป็นวันที่เราเข้าใกล้จุดมุ่งหมายและวิสัยทัศน์ร่วมว่าด้วยความปลอดภัยและอธิปไตยของอัฟกานิสถาน” แอลเลนแถลง
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ทางการอัฟกานิสถานจะได้สิทธิควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ได้จากการตรวจค้น และมีอำนาจตัดสินใจว่าจะให้ทีมสอบสวนของสหรัฐฯ เข้าถึงพวกเขาได้หรือไม่
ปฏิบัติการตรวจค้นยังต้องได้รับหมายค้นจากผู้พิพากษาอัฟกันเสียก่อน ขณะที่อัฟกานิสถานเองก็จะต้องตั้งกระบวนการยุติธรรม “ที่สามารถออกหมายอนุญาตได้ตรงเวลา และทันต่อปฏิบัติการ”
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่ามาตรการจำกัดการตรวจค้นแบบสายฟ้าแลบจะกระทบต่อภารกิจของนาโต และทำให้ยุทธวิธีกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายที่ได้ผลที่สุด ด้อยประสิทธิภาพลง ซึ่งผู้บัญชาการนาโตเองก็คงกังวลเรื่องนี้อยู่เช่นกัน
ขณะที่ทหารอเมริกันจะยังปฏิบัติภารกิจตรวจค้นบ้านพลเรือนต่อไป อัฟกานิสถานก็จะส่งหน่วยคอมมานโดพิเศษเข้าไปมีส่วนสนับสนุนและให้คำปรึกษาด้วย
“นับจากนี้เป็นต้นไป การตรวจค้นในยามวิกาลจะกระทำโดยกองทัพอัฟกานิสถาน, ตำรวจ และหน่วยข่าวกรอง ซึ่งจะประสานงานใกล้ชิดกับหน่วยงานยุติธรรมของอัฟกานิสถาน” รัฐมนตรีกลาโหมอัฟกันแถลง
สหรัฐฯ จะจัดส่งอุปกรณ์ที่จำเป็น และให้คำปรึกษากับหน่วยรบพิเศษของอัฟกานิสถานด้วยเช่นกัน ข้อตกลงระบุ
พลเมืองอัฟกันต่างร้องเรียนว่า ปฏิบัติการตรวจค้นยามค่ำคืนเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของพวกเขา โดยเฉพาะสตรีที่อาศัยอยู่ในชุมชนหัวอนุรักษ์ ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มตอลิบาน
