เอเอฟพี - หมู่เกาะญี่ปุ่นอาจถูกคลื่นสึนามิสูงถึง 35 เมตรซัดถล่มได้ ถ้าหากเกิดแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงอย่างยิ่งในอนาคตข้างหน้า คณะผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลแดนอาทิตย์อุทัยระบุ ภายหลังทบทวนแก้ไขการคาดการณ์ผลกระทบในกรณีสถานการณ์เลวร้ายที่สุด
หากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.0 บริเวณร่องน้ำนันไก ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของญี่ปุ่นจะกลายเป็นเมืองบาดาล โดยที่กรุงโตเกียวเรื่อยลงไปจนถึงเกาะคิวชูอาจถูกถล่มด้วยคลื่นสึนามิสูงตั้งแต่ 20 เมตรขึ้นไป
ขณะที่เมืองคุโรชิโอะในจังหวัดโคจิ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ อาจเผชิญคลื่นยักษ์สูงถึง 34.4 เมตร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่ประเมินไว้ในการคาดการณ์สำหรับกรณีสถานการณ์เลวร้ายที่สุด คณะกรรมการของสำนักคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุในรายงานฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่ซึ่งนำออกเผยแพร่ในคืนวันเสาร์(31มี.ค.)
ส่วนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฮามาโอกะ จ.ชิสุโอกะ อาจเผชิญคลื่นสึนามิสูงถึง 21 เมตร ซึ่งเกินกว่ากำแพงกั้นน้ำสูง 18 เมตรที่โรงไฟฟ้าได้สร้างเอาไว้
การคาดการณ์ล่าสุดก่อนหน้านี้คือเมื่อปี 2003 นั้น ในกรณีสถานการณ์เลวร้ายที่สุด คณะผู้เชี่ยวชาญประเมินเอาไว้ว่า ไม่มีพื้นที่ใดของญี่ปุ่นที่เสี่ยงเกิดคลื่นสึนามิสูงเกิน 20 เมตร ทว่าได้มีการปรับการคาดการณ์เสียใหม่ในคราวนี้ หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.0 เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ปี 2011 ซึ่งทำให้พื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นถูกคลื่นยักษ์ซัดถล่มจนราบคาบ และมีผู้สังเวยชีวิตไปไม่น้อยกว่า 19,000 ราย
เหตุการณ์เมื่อปีที่แล้วทำให้เมืองอิชิโนมากิ, โซมะ และโอฟุนาโตะ ถูกทำลายย่อยยับด้วยพลังของคลื่นยักษ์สูงไม่ต่ำกว่า 15 เมตร
คลื่นมฤตยูที่ซัดถล่มโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ ยังส่งผลให้ระบบหล่อเย็นในเตาปฏิกรณ์ขัดข้อง จนเกิดเป็นวิกฤตนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ที่สุดของโลกในรอบ 25 ปี
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการย้ำว่า ตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงตัวเลขคาดการณ์ในกรณีสถานการณ์ร้ายแรงที่สุดเท่านั้น “ซึ่งมีโอกาสเกิดได้น้อยมาก”
คณะกรรมการสำนักงานคณะรัฐมนตรีจะทำการศึกษาต่อไปว่า มีพื้นที่ใดบ้างที่สุ่มเสี่ยงต่อคลื่นสึนามิ ขณะที่รัฐบาลก็จะหามาตรการรองรับภัยพิบัติให้สอดคล้องกับผลประเมินล่าสุดที่ออกมา