เอเอฟพี - แรงงานสเปนเริ่มผละงานประท้วงใหญ่เป็นเวลา 24 ชั่วโมง วันนี้ (29) เพื่อคัดค้านกฎหมายฉบับใหม่ที่ช่วยให้สถานประกอบการเลิกจ้างแรงงานได้ง่ายขึ้น ในช่วงที่อัตราการว่างงานสูง และมาตรการรัดเข็มขัดมีผลบังคับใช้
วันนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีการประท้วงใหญ่ต่อต้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี มาริอาโน ราฮอย เพียง 3 เดือน หลังจากราฮอยได้รับเลือกตั้งด้วยคำมั่นสัญญาที่จะแก้ปัญหาอัตราว่างงานที่สูงเฉียด 23 เปอร์เซ็นต์ และคืนเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจสเปน
ตั้งแต่ช่วงเช้า ตำรวจสเปนจับกุมผู้ประท้วงไปแล้ว 58 ราย และยังเกิดเหตุปะทะประปราย มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยจำนวนหนึ่ง กระทรวงมหาดไทยสเปนเปิดเผย
สหภาพแรงงาน อูเคเต (UGT) และเซเซโอโอ (CCOO) ต่างเรียกร้องการประท้วงทั่วประเทศใน 100 เมือง และประณามกฎหมายปฏิรูปแรงงานที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ซึ่งช่วยให้สถานประกอบการจ่ายเงินชดเชยสำหรับการปลดพนักงานน้อยลง และสามารถลดค่าแรงได้สะดวกขึ้น
รัฐบาลอนุรักษนิยมของพรรคป๊อบปูลาร์ ปาร์ตี้ อธิบายว่า กฎหมายฉบับใหม่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับแก้ปัญหาอัตราการว่างงาน 22.85 เปอร์เซ็นต์ ของสเปน ซึ่งมีการประเมินว่าอาจถึง 24.3 เปอร์เซ็นต์ ภายในปีนี้
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ชุมนุมอาจมีไม่มากนัก เนื่องจากรัฐบาลมีข้อตกลงกับสหภาพแรงงานว่า ระหว่างการผละงานประท้วง รถบริการสาธารณะอย่างน้อย 1 ใน 3 ต้องให้บริการตามปกติ และอีกสาเหตุหนึ่ง ผู้คนอาจลังเลที่จะผละงาน เพราะจะทำให้สูญเสียค่าแรงสำหรับวันนี้ไป
ในวันศุกร์ (30) รัฐบาลสเปนมีกำหนดอนุมัติงบประมาณประจำปี 2012 พร้อมทั้งมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ที่จะช่วยลดการขาดดุลให้เหลือ 5.3 เปอร์เซ็นต์ จากปีที่แล้วซึ่งสูงถึง 8.51 เปอร์เซ็นต์ แม้ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ประกาศมาตรการรัดเข็มขัดมูลค่า 8,900 ล้านยูโร และขึ้นภาษีที่จะหารายได้เข้ารัฐอีก 6,300 ล้านยูโร ไปแล้วก็ตาม