เอเอฟพี - รัฐบาลออสเตรเลียแถลงวันนี้(28)ว่า อาจอนุญาตให้สหรัฐฯเข้ามาตั้งฐานบินสอดแนมระยะไกลในประเทศ ซึ่งนับเป็นความพยายามอีกขั้นของวอชิงตันที่จะเข้ามามีบทบาทแข่งกับจีนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
วอชิงตันและแคนเบอร์ราวางแผนกระชับสัมพันธ์กองทัพให้แนบแน่นยิ่งขึ้น โดยเดือนเมษายนนี้ สหรัฐฯจะส่งนาวิกโยธิน 2,500 นายเข้าไปประจำการทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ตามแผนที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ประกาศไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
แผนดังกล่าวสร้างความอึดอัดใจให้กับจีน ขณะที่บางประเทศเอเชียมองว่า การส่งทหารครั้งนี้เป็นเสมือนแถลงการณ์ของวอชิงตันว่าจะรักษาผลประโยชน์ในภูมิภาคนี้อย่างเต็มที่
สื่อออสเตรเลียอ้างรายงานจากหนังสือพิมพ์ วอชิงตัน โพสต์ ว่า สหรัฐฯกำลังพิจารณาใช้หมู่เกาะโคโคสนอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของออสเตรเลียเป็นฐานส่งเครื่องบินสอดแนมไร้คนขับ เพื่อแทนที่ฐานบิน ดิเอโก การ์เซีย ในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเป็นเกาะปะการังที่วอชิงตันเช่าจากอังกฤษ และมีกำหนดเลิกใช้ในปี 2016
สหรัฐฯยังอาจส่งเรือบรรทุกเครื่องบินและเรือดำน้ำโจมตีนิวเคลียร์เข้าไปประจำการในเมืองเพิร์ท ตามแผนโยกย้ายฐานกำลังของสหรัฐฯในภูมิภาคเอเชีย รายงานระบุ
สตีเฟน สมิธ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมออสเตรเลีย แถลงว่า การอนุญาตให้หมู่เกาะโคโคสเป็นฐานบินของสหรัฐฯถือเป็นทางเลือกระยะยาว เพื่อให้ 2 ประเทศมีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้น และจะต้องปรับปรุงรันเวย์ของสนามบินบนเกาะเสียก่อนจึงจะใช้งานได้
การพัฒนาสนามบินหมู่เกาะโคคอสจะต้องใช้งบประมาณราว 75 -100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย สมิธ เผย
หมู่เกาะแห่งนี้ถูกมองว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีสำหรับส่งเครื่องบินขึ้นสอดแนมเส้นทางเดินเรือสำคัญ ตลอดจนสถานการณ์ในทะเลจีนใต้