เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ เตือน การยิงจรวดปล่อยดาวเทียมของเกาหลีเหนือ ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือนหน้านั้น อาจมีเป้าหมายอยู่ในบริวเณตอนใต้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ของ 3 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ เฮอรัลด์ มอร์นิง รายงาน
หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวระบุว่า เคิร์ท แคมป์เบลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออก และแปซิฟิกแจ้งเตือน บ๊อบ คาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย ถึงความเป็นไปได้ดังกล่าวด้วยตัวเอง
"หากมีการทดสอบขีปนาวุธตามที่เกาหลีเหนือระบุไว้ จากการพิจารณาของเราเห็นว่ามันจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ ระหว่างออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์" แคมป์เบลล์กล่าว
"เราไม่เคยเห็นแนววิถีเช่นนี้มาก่อน เราได้ประเมินแต่ละประเทศเหล่านี้ และขอให้พวกเขาประกาศอย่างชัดเจนว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นการยั่วยุ และแผนการนี้ควรจะถูกระงับ" เขาเสริม
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือประกาศว่าจะยิงจรวดในช่วงกลางเดือนเมษายน เพื่อนำดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร อันเป็นความเคลื่อนไหวที่สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ เชื่อว่าเป็นข้ออ้างในการทดลองขีปนาวุธพิสัยไกล ซึ่งละเมิดข้อห้ามของสหประชาชาติ
ในวันศุกร์ (23) เปียงยางเผยว่า ได้เตรียมการสำหรับการส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศอย่างสมบูรณ์แล้ว และประกาศกร้าวว่าจะใช้มาตรการตอบโต้ผู้คัดค้าน พร้อมกับยืนกรานว่า การยิงจรวดนั้นไม่ได้ละเมิดข้อตกลงแลกเปลี่ยนความช่วยเหลือด้านอาหารกับสหรัฐฯ แต่อย่างใด
แผนการดังกล่าวของโสมแดงสร้างความแตกตื่นไปทั่วภูมิภาค โดยที่ก่อนหน้านี้ฟิลิปปินส์ได้ออกมาเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ให้คอยจับตาดูจรวด ซึ่งน่าจะมีบางชิ้นส่วนตกในพื้นที่ของประเทศ แล้ว
ด้าน ญี่ปุ่นก็ติดตั้งระบบต้านขีปนาวุธเตรียมพร้อมสอยจรวด หรืออาวุธใดๆ ก็ตาม ที่เป็นภัยคุกคามของประเทศเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ จีน ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญที่สุดของโสมแดง กระตุ้นให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ และอดทนอดกลั้นไว้ก่อน
บรรดาผู้นำโลก รวมถึงประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐฯ มีกำหนดจะเข้าร่วมประชุม โซล ซัมมิต ที่เกาหลีใต้ในสัปดาห์หน้า ที่มุ่งเน้นปัญหาการก่อการร้ายด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งบัน คีมูน เลขาธิการยูเอ็น เตรียมจะยกประเด็นการยิงจรวดของเปียงยางขึ้นหารือในที่ประชุมวันจันทร์ (26) และวันอังคาร (27) นี้ด้วย