น้ำมันดีดแรงกังวลอุปทานอิหร่าน-หุ้นสหรัฐฯปิดบวกแคบ

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์(23) จากความกังวลทางอุปทาน หลังมีข่าวคาดหมายว่าการส่งออกทางพลังงานของอิหร่านจะลดลงอย่างมากในเดือนนี้ ขณะที่วอลล์สตรีท แกว่งตัวปิดในแดนบวก จากมุมมองที่ดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้นถึง 108.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ ช่วงหนึ่งของการซื้อขาย ก่อนขยับลงมาปิดที่ 106.87 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.99 ดอลลาร์ ปิดที่ 125.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

แม้ไม่มีคำยืนยันอย่างเป็นทางการว่าปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านจะลดลงเท่าใด แต่รายงานข่าวคาดหมายว่าน่าจะอยู่ที่ราวๆร้อยละ 14 ซึ่งนั่นก็เพียงพอที่จะก่อความตื่นตระหนกแก่นักลงทุน ขณะที่เหตุเผชิญหน้ากันระหว่างตะวันตกและอิหร่าน ชาติผู้ผลิตเชื้อเพลิงสำคัญคือปัจจัยสำคัญที่ผลักให่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(23) ซื้อขายผันผวน ก่อนแกว่งตัวขึ้นมาปิดในแดนบวกเล็กน้อยในช่วงท้ายของการซื้อขาย เมินข่าวแง่ลบเกี่ยวกับเศรษฐกิจในยุโรป

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 34.59 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,080.73 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 4.60 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,067.92 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.33 จุด (0.31 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,397.11

ตลาดเริ่มต้นในแดนลบจากข้อมูลอันน่าผิดหวังของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯที่ระบุว่ายอดขายบ้านใหม่ลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตามวอลล์สตรีทก็กระเตื้องขึ้นในช่วงบ่าย หลังนักวิเคราะห์โต้แย้งว่าข้อมูลดังกล่าวนับเป็นการส่งสัญญาณแห่งการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัยพ์นี้ เนื่องจากหากเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน ยอดขายบ้านใหม่ปีนี้นับว่าดีขึ้นจากปีที่แล้ว