เดลิเมล์ - ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ได้รับอีเมลบอกรักจากผู้หญิง 3 คน แม้มีคู่ครองเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว โดยผู้หญิงทั้งสามได้ส่งข้อความแสดงความเสน่หาบอกคิดถึงท่านผู้นำ อีกทั้งมีภาพถ่ายผู้หญิงปริศนาในชุดชั้นในส่งมาในอีเมลฉบับหนึ่ง หนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทม์ส รายงานข้อมูลที่ได้รับจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียในวันอาทิตย์ (18)
ผู้หญิง 2 ใน 3 คนที่ส่งข้อความบอกรักอัสซาด เป็นผู้ช่วยฝ่ายประชาสัมพันธ์ของผู้นำซีเรีย ส่วนคนที่ 3 เป็นนักออกแบบเครื่องประดับซึ่งบรรยายความรักผ่านทางอีเมลว่า “ฉันอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีคุณ” ขณะเดียวกัน อีเมลอีกฉบับหนึ่งที่ส่งถึงผู้นำซีเรียช่วงเดือนธันวาคม ได้แนบภาพถ่ายด้านหลังของผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมเพียงชุดชั้นใน อีเมลฉบับนี้ถูกพบอยู่ในกล่องขาเข้าของอัสซาด ซึ่งกลุ่มกบฏได้นำออกมาประจาน
หนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทม์ส เป็นผู้นำเปิดเผยเรื่องนี้ โดยระบุว่ากลุ่มนักเคลื่อนไหวฝ่ายต่อต้านได้รวบรวมและเผยแพร่อีเมลลับ เพื่อเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของผู้นำซีเรียแก่สาธารณชนที่ยังคงสนับสนุนรัฐบาล ทั้งนี้ การตีแผ่เรื่องในที่ลับดังกล่าาวอาจสร้างความเสียหายใหญ่หลวงแก่ภาพลักษณ์ของอัสซาดในโลกอาหรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอนุรักษนิยมอย่างอิหร่าน ซึ่งคอยหนุนหลังระบอบอัสซาดเรื่อยมา
ซันเดย์ ไทม์ส สามารถระบุตัวผู้หญิงคนแรกว่าชื่อ เชเฮราซาด จาฟารี เป็นที่ปรึกษาฝ่ายประชาสัมพันธ์ อายุระหว่าง 20-29 ปี และยังเป็นบุตรสาวของทูตซีเรียประจำยูเอ็น โดยเนื้อความในอีเมล จาฟารีได้ฝากให้ที่ปรึกษาอีกคนหนึ่งบอกกับอัสซาดว่า “ฉันรักเขามากเหลือเกิน ฉันคิดถึงเขา”
ที่ปรึกษาสาวอีกคนหนึ่ง ชื่อ ฮาเดล อัล-อาลี ซึ่งได้แนบรูปอัสซาดในวัยหนุ่ม พร้อมทั้งบรรยายถึง “ความน่ารัก” ของผู้นำซีเรีย ส่วนผู้หญิงคนที่ 3 ชื่อ ราชา มูอาเคห์
นอกจากนี้ ข้อความล่าสุดยังถูกเปิดเผยออกมาว่า ผู้นำซีเรียแลกเปลี่ยนข้อความทางอีเมลกับผู้หญิงปริศนาคนหนึ่งซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าเป็น 1 ใน 3 คนนี้หรือไม่ โดยเนื้อหาเต็มไปด้วยคำพูดแสดงความรักที่งอกงามระหว่างกัน ในขณะที่อีเมลที่ส่งมาจากอีเมลแอดเดรสอีกบัญชีหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นผู้หญิงคนเดียวกันนี้ ทั้งสองยังได้แลกเปลี่ยนเพลงรักภาษาเลบานอนให้แก่กัน
อีเมลอีกฉบับหนึ่งยังมีข้อความภาษาอาหรับว่า “ฉันรักคุณ”
ด้าน สำนักข่าวซานา สื่อทางการของซีเรีย ตอบโต้ว่าข่าวอีเมลลับดังกล่าวเป็นเรื่องหลอกลวง และไม่มีข้อความส่วนใดพิสูจน์ได้ว่าผู้นำซีเรียมีความสัมพันธ์ทางเพศกับหญิงอื่น
อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์เดลิเมล์ไม่สามารถติดต่อกับผู้หญิงที่ปรากฏชื่อเป็นข่าวกับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงได้