บราซิลสั่งห้ามผู้บริหาร “เชฟรอน” ออกนอกประเทศ หลังเกิดน้ำมันรั่วซ้ำสอง

เอเอฟพี - ผู้พิพากษาบราซิลมีคำสั่งห้ามผู้บริหารระดับสูง 17 คน ของ เชฟรอน บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน เดินทางออกนอกบราซิล ระหว่างการสอบสวนคดีน้ำมันดิบรั่วลงทะเล ในขณะที่คณะอัยการเตรียมดำเนินคดีเพิ่มเติม หลังเกิดการรั่วไหลซ้ำสองที่จุดเดิม สื่อท้องถิ่นรายงานเมื่อวันเสาร์ (17)

กลุ่มผู้บริหารเชฟรอนซึ่งประกอบไปด้วยชาวอเมริกัน 5 คน ชาวบราซิล 5 คน ชาวออสเตรเลีย 3 คน ชาวฝรั่งเศส 2 คน ชาวแคนาดาและอังกฤษชาติละ 1 คน จะสามารถเดินทางออกจากบราซิลได้ก็ต่อเมื่อมีคำอนุมัติจากศาลเท่านั้น ผู้พิพากษา วลามีร์ กอสตา แห่งรัฐรีโอเดจาเนโร ประกาศคำสั่งศาล

ทั้งนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน เชฟรอนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักกรณีการรั่วไหลของน้ำมันดิบบริเวณบ่อน้ำมันเฟรด ฟิลด์ (Frade Field) นอกชายฝั่งรัฐรีโอเดจาเนโร โดยสำนักการปิโตรเลียมแห่งชาติบราซิล (เอเอ็นพี) ประเมินว่า มีน้ำมันดิบประมาณ 3,000 บาร์เรล รั่วไหลลงสู่ทะเล

ทางการบราซิลลงโทษด้วยการสั่งระงับการเจาะน้ำมันของเชฟรอนทั้งหมดเป็นการชั่วคราว อีกทั้งยังปฏิเสธคำขอเข้าเจาะบ่อน้ำมันใหม่ ซึ่งทางสำนักเอเอ็นพีระบุว่า บ่อใหม่นี้มีน้ำมันคุณภาพสูงเกินกว่า 100,000 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ วันพฤหัสบดี (15) ที่ผ่านมา เชฟรอนรายงานยอมรับอีกว่า เกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลจำนวนหนึ่งในเฟรด ฟิลด์อีกครั้ง ส่งผลให้การเจาะน้ำมันของเชฟรอนในบราซิลต้องยุติลงเป็นหนที่สอง เชฟรอนไม่ได้เปิดเผยว่า การรั่วทั้งสองครั้งเกี่ยวข้องกันหรือไม่ แต่ทางการบราซิลตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่า เหตุล่าสุดนี้เป็นผลมาจากการเจาะน้ำมันที่เกิดการรั่วไหลในเดือนพฤศจิกายน

ตั้งแต่เกิดเรื่องช่วงปลายปีที่แล้ว เชฟรอนถูกปรับเงินไปแล้วกว่า 30 ล้านดอลลาร์ และยังถูกระงับการเข้าถึงบ่อน้ำมันแหล่งใหม่

คณะอัยการบราซิลยังประกาศจะดำเนินคดีเพิ่มเติมกับบริษัทเชฟรอน บริษัทลูกในบราซิล และบริษัททรานส์โอเชียน ผู้ดำเนินการขุดเจาะน้ำมัน โดยจะเรียกร้องค่าเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 11,000 ล้านดอลลาร์