ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เว็บไซต์ข่าวเดลิเมล์รายงานว่า กระแสแฟชั่นที่แสดงให้เห็นถึงความหลงใหลลัทธินาซีของอดีตผู้นำจอมเผด็จการโลก “ฮิตเลอร์” ในไทยนั้นยังคงมีอยู่เกลื่อนเมือง แม้ว่าจะเป็นการยั่วยุให้เกิดความไม่พอใจ และสร้างความประหลาดใจให้กับชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศอย่างมากก็ตาม
กระแสความนิยมที่น่าตกตะลึงสำหรับชาวต่างชาติดังกล่าวพบได้มากในเสื้อยืดวัยรุ่นที่วางขายอยู่ทั่วไป โดยเป็นรูปการ์ตูนล้อผู้นำนาซีในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแพนด้า เทเลทับบีส์ หรือแม้แต่โรนัลด์ แมคโดนัลด์ รวมไปถึงเครื่องหมายสวัสดิกะ สัญลักษณ์ของลัทธินาซี ที่มีดีไซน์แปลกแหวกแนวออกไป
“ชาวต่างชาติบางคนโกรธ เมื่อเห็นเสื้อของผมวางขายอยู่ พวกเขามาที่ร้าน แล้วก็ต่อว่า” คนขายเสื้อรายหนึ่งเผยกับซีเอ็นเอ็น “ไม่ใช่ว่าผมชื่นชอบฮิตเลอร์ แต่มันดูตลกดี และเสื้อยืดพวกนี้ก็เป็นที่นิยมมากในหมู่เด็กวัยรุ่น”
อย่างไรก็ตาม เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำกรุงเทพฯ อิตซัค โชฮัม ไม่ได้รู้สึกตลกไปด้วย เขากล่าวว่า “คุณไม่ต้องการจะเห็นความทรงจำเกี่ยวกับช่วงเวลาของนาซี ที่ถูกมองว่าไม่สำคัญด้วยพฤติการณ์เช่นนี้ สิ่งนั้นทำร้ายความรู้สึกของชาวยิว และผู้เจริญแล้วทุกคน”
ขณะที่ผู้คนจากหลายๆ ส่วนของโลกแสดงความเห็นในข่าวของเดลิเมล์นี้ในเชิงต่อว่าเสียเป็นส่วนใหญ่ บ้างว่าเป็นกระแสแฟชันที่ประหลาดพิสดาร เป็นความผิดพลาดที่น่าละอาย สร้างความไม่พอใจให้กับพวกเขา หรือแม้กระทั่งเรียกร้องให้บอยคอตประเทศไทยทีเดียว
ทั้งนี้ ในเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา ไทยเคยตกเป็นเป้าถูกวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นนี้มาก่อน เมื่อนักเรียนโรงเรียนพระหฤทัยเชียงใหม่แต่งกายในชุดเครื่องแบบทหารนาซีเต็มยศ ทั้งอาร์มเครื่องหมายสวัสติกะ และถือปืนปลอม เดินพาเหรดในวันกีฬาสี ขณะที่ชาวเมืองส่งเสียงเชียร์เด็กๆ อย่างสนุกสนาน แต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต้องเฝ้าดูอย่างหวาดกลัว
ก่อนหน้านั้น ในปี 2007 นักเรียนโรงเรียนทิวไผ่งามกว่า 200 คนก็เคยแต่งกายธีมนาซีในงานวันกีฬาสีของพวกเขาเช่นกัน
หลังจากกระแสความไม่พอใจของชาวต่างชาติ ครูของทั้ง 2 โรงเรียนก็ออกมาแสดงความเสียใจ และขอโทษ โดยอ้างว่าพวกเขาไม่รู้ว่าเด็กวางแผนแต่งตัวกันเช่นนั้น
นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งนานาชาติพัทยา หลุยส์ ทุซโซ ก็เคยติดป้ายโฆษณาขนาดยักษ์ เพื่อโปรโมตพิพิธภัณฑ์ที่กำลังจะเปิดเมื่อปี 2009 โดยเป็นภาพจอมเผด็จการนาซี พร้อมข้อความภาษาไทยที่ระบุว่า “ฮิตเลอร์ยังไม่ตาย” ก่อให้เกิดการประท้วงจากสถานทูตอิสราเอล รวมถึงสถานทูตเยอรมนีด้วย