เอเอฟพี - ราคาน้ำมันพุ่งแรงวานนี้ (1) ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างอิหร่าน ชาติผู้ส่งออกรายใหญ่กับชาติตะวันตก ขณะที่วอลล์สตรีทก็ปิดบวกเช่นกัน ตามหลังข้อมูลที่สดใสของภาคแรงงานสหรัฐฯ และข่าวดีกรีซอาจไม่ผิดนัดชำระหนี้
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.77 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอ งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 3.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 126.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
“ราคาน้ำมันปรับเพิ่มต่อเนื่อง ด้วยสถานการณ์อิหร่านยังคงเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันตลาด” แจ็ก พอลลาร์ด นักวิเคราะห์จากซัคเดน ไฟแนนเชียล รีเสิร์ชกล่าว
เมื่อวันพุธ (29) ความตึงเครียดระหว่างตะวันตกและอิหร่านเกี่ยวกับโปรแกรมนิวเคลียร์ของเตหะรานขยายตัวขึ้น หลังจาก พล.อ.อ.นอร์ตัน ชวาร์ท ผู้บัญชาการกองทัพอากาศสหรัฐฯ เตือนว่าอเมริกามีระเบิดทรงพลังพร้อมอยู่แล้วในกรณีที่ตัดสินใจใช้กำลังทหารโจมตีอิหร่าน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (1) ปิดบวกเล็กน้อย จากข้อมูลบวกภาคแรงงานภายในประเทศและคำวินิจฉัยสำคัญเกี่ยวกับแผนลดหนี้กรีซที่คาราคาซัง
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 28.23 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,980.30 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 22.08 จุด (0.74 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,988.97 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 8.40 จุด (0.62 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,374.08
วอลล์สตรีทเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นยุโรป ด้วยนักลงทุนจากสองฝ่ายของแอตแลนติกได้แรงหนุนจากการตัดสินครั้งสำคัญของคณะกรรมาธิการหนึ่งที่ระบุว่ากรีซไม่อยู่ในภาวะผิดนัดชำระหนี้จากแผนสวอปหนี้ที่สามารถช่วยตัดลดหนี้ให้แก่เอเธนส์ได้ถึง 1.07 แสนล้านยูโรจากทั้งหมด 3.5 แสนล้านยูโร
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลภาคแรงงานภายในประเทศ หลังพบว่ายอดผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานซึ่งบ่งชี้ถึงอัตราพนักงานที่ถูกปลดนั้นลดน้อยลงเรื่อยๆ