เอเอฟพี - เอกสารการสอบสวนคดีเรือสำราญอิตาลีอับปางที่รั่วไหลออกมา ระบุว่า เจ้าหน้าที่บนเรือเสพโคเคนเป็นประจำ และบางครั้งก็เมาเละเทะ จนก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศลูกเรือผู้หญิง หนังสือพิมพ์ ลา สแตมปา รายงานวันนี้ (1)
“เจ้าหน้าที่และลูกเรือเมากันเป็นประจำ” อดีตพนักงานหญิงที่เคยทำงานบนเรือกอสตา กอนกอร์เดีย ให้การต่อเจ้าหน้าที่ “เรายังถามกันเองอยู่บ่อยๆ เลยว่า ‘ถ้ามีเรื่องฉุกเฉิน ใครจะช่วยได้’”
ลา สแตมปา ยังอ้างคำให้การของอดีตพนักงานหญิงคนนี้ ว่า เธอเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศจากลูกเรือที่เมาโคเคนจนขาดสติ
สำหรับข้อกล่าวหาเรื่องยาเสพติดนี้ บริษัท กอสตา กอนซีเร เจ้าของเรือสำราญ กอสตา กอนกอร์เดีย แถลงว่า ทางบริษัทมีมาตรการป้องกันปัญหายาเสพติดที่สัมฤทธิ์ผลมาโดยตลอด และมีการตรวจค้นเรืออยู่เป็นประจำ
นอกจากนี้ คำให้การอีกฉบับหนึ่งมาจากปากคำของนางพยาบาลที่เคยทำงานร่วมกับกัปตัน ฟรานเชสโก สเก็ตติโน บนเรือสำราญอีกลำหนึ่ง ยังเปิดเผยออกมาว่า มีทั้งปัญหาคอร์รัปชัน เรื่องยาเสพติด และการค้าประเวณี บนเรือกอสตา แอตลันติกา ในช่วงเวลาที่สเก็ตติโนเป็นกัปตัน
“ฉันเห็นตอนที่ลูกเรือกำลังเสพโคเคนมากับตาตัวเอง” พยานปากนี้ให้การไว้
ฟรานเชสโก สเก็ตติโน เจ้าของฉายา “กัปตันตาขาว” กำลังถูกสอบสวนในคดีอาชญากรรมต่อเหตุโศกนาฏกรรมเรือสำราญอับปาง เขาถูกตั้งข้อหาหลายกระทง ที่สำคัญคือ ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาและสละเรือ
นอกเหนือจากตัวกัปตันตาขาว ตำรวจกำลังสอบสวนผู้ต้องสงสัยร่วมอีก 8 คน รวมถึงผู้บริหาร 3 คน ของกอสตา กอนซีเร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท คาร์นิวัล คอร์ปอร์เรชัน ผู้ดำเนินกิจการเรือสำราญยักษ์ใหญ่ของโลก
แม้เจ้าหน้าที่จะไม่พบสารเสพติดในปัสสาวะของสเก็ตติโน แต่กลับพบโคเคนตกค้างอยู่บนเส้นผมของเขา ซึ่งก่อคำถามเกี่ยวกับความเชื่อมโยงกับยาเสพติดบนเรือกอสตา กอนกอร์เดีย
อนึ่ง กอสตา กอนกอร์เดีย อับปางลงใกล้กับชายฝั่งเกาะจีกลีโอ แคว้นทัสกานี ทางตะวันตกของอิตาลี เมื่อวันศุกร์ ที่ 13 มกราคม ในช่วงเวลาที่ผู้โดยสารบนเรือทั้งหมด 4,229 คน กำลังนั่งลงดื่มด่ำกับมื้อค่ำ เหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 32 ราย